รีวิว Dashlane: สรุปย่อโดยผู้เชี่ยวชาญ
Dashlane เป็นหนึ่งในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดในปี 2024 โดยใช้การเข้ารหัสแบบ end-to-end ที่ไม่สามารถเจาะเข้าถึงได้เพื่อรักษาความปลอดภัยข้อมูลผู้ใช้ มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่หลากหลายและมอบฟีเจอร์พิเศษที่มีประโยชน์มากกว่าคู่แข่งรายอื่น ๆ
เครื่องมือจัดการรหัสผ่านมาตรฐานทั้งหมดของ Dashlane ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบในระหว่างการทดสอบของฉัน — ฉันพบว่าการนำเข้า สร้าง บันทึกและแบ่งปันรหัสผ่าน การกรอกรหัสผ่านและแบบฟอร์มอัตโนมัติ การตั้งต่าตั้งค่าการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA) และตรวจสอบว่าความปลอดภัยรหัสผ่านของฉันนั้นทำได้ง่ายอย่างเหลือเชื่อ และเครื่องมือเพิ่มเติมทั้งหมดของ Dashlane ทำงานได้ตรงตามที่โฆษณาไว้ – นี่คือฟีเจอร์พิเศษที่ฉันชอบมากที่สุด:
- เครือข่ายส่วนตัวเสมือน(VPN) — ให้การใช้งานอินเตอร์เน็ตที่ปลอดภัย ไม่มีข้อจำกัดและทำงานได้เร็วกว่า VPN แบบสแตนด์อโลนจำนวนมาก (Dashlane เป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านเดียวที่ให้ VPN มาพร้อมกับบริการ)
- การเปลี่ยนรหัสผ่านอัตโนมัติ — เปลี่ยนรหัสบนหลายร้อยเว็บไซต์ได้ด้วยคลิกเดียว
- ตรวจสอบดาร์กเว็บแบบเรียลไทม์ — สแกนดาร์กเว็บแบบเรียลไทม์และแจ้งเตือนทันทีในกรณีที่ที่อยู่อีเมลรั่วไหล
แผนพรีเมียมของ Dashlane นั้นปลอดภัย 100% มีฟีเจอร์มากมายและใช้งานง่าย แต่ราคาแพงกว่าคู่แข่งชั้นนำอย่าง 1Password และRoboForm เล็กน้อย มันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมโดยรวม แต่ฉันอยากเห็น Dashlane ปรับปรุงเครื่องมือสร้างรหัสผ่านและฟีเจอร์การแบ่งปันรหัสผ่านให้ดีมากกว่านี้ ฉันคิดว่าน่าเสียดายที่บริการไม่ใช้คีย์ความปลอดภัยเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA) อีกต่อไป แต่ถึงแม้ว่าจะมีข้อตำหนิเล็กน้อย ฉันก็ยังคิดว่า Dashlane เป็นบริการที่ยอดเยี่ยมและคุ้มค่า 100%
แผน Family ของ Dashlane นั้นเป็นหนึ่งในแผนสำหรับครอบครัวที่ดีที่สุด (มีทุกอย่างเหมือนแผน Premium แต่ให้คุณสามารถเพิ่มผู้ใช้ได้อีก 6 คนและยังมีแดชบอร์ดจัดการครอบครัวอีกด้วย) Dashlane Free ก็เป็นบริการที่ดีเช่นกัน แม้ว่าจะสามารถจัดเก็บรหัสผ่านได้มากถึง 50 รหัสผ่านในอุปกรณ์เครื่องเดียว แต่ก็มีฟีเจอร์การบันทึกและกรอกอัตโนมัติ การแบ่งปันรหัสผ่านแบบจำกัดและการตรวจสอบรหัสผ่าน
Dashlane มีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ดังนั้นคุณสามารถทดลองใช้ฟีเจอร์ระดับพรีเมียมได้โดยปราศจากความเสี่ยงและตัดสินใจว่ามันคือเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่เหมาะสมสำหรับคุณหรือไม่
อันดับโดยรวม | เครื่องมือจัดการรหัสผ่านอันดับที่ 2 จาก 50 |
🔐 การเข้ารหัส | 256-bit AES |
🎁 แผนใช้งานฟรี | 1 อุปกรณ์, 50 รหัส |
💸 ราคา | Starting at US$4.99/year |
💰 การรับประกันคืนเงิน | 30 วัน (ทดลองใช้ฟรี 30 วัน) |
📀 ระบบปฏิบัติการ | Windows, Android, Mac, iOS |
มีให้ใช้ในภาษาไทย | Yes / ไม่ |
สนับสนุนลูกค้าในภาษาไทย | Yes / ไม่ |
ทดลองใช้งานได้โดยปราศจากความเสี่ยงเป็นเวลา 30 วัน — ดาวน์โหลด Dashlane เลยตอนนี้
รีวิว Dashlane ตัวเต็ม
Dashlane มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากกว่าเครื่องมือจัดการรหัสผ่านส่วนใหญ่ Dashlane เชี่ยวชาญด้านฟังก์ชันการจัดการรหัสผ่านขั้นพื้นฐาน โดยพวกเขานำเสนอฟีเจอร์ความปลอดภัยระดับชั้นนำให้กับผู้ใช้และเครื่องมือบันทึกและการกรอกอัตโนมัติที่ให้งานได้อย่างราบรื่นในทุกระบบปฏิบัติการ เบราว์เซอร์และอุปกรณ์ อย่างไรก็ตามความพิเศษที่น่าประทับใจของ Dashlane ยังรวมถึง VPN ที่มีคุณภาพ, การตรวจสอบดาร์กเว็บแบบเรียลไทม์และเครื่องมือเปลี่ยนรหัสผ่านอัตโนมัติ — เป็นสิ่งที่ทำให้บริการนี้โดดเด่นอย่างมาก
แผนฟรีของ Dashlane นั้นเป็นหนึ่งในแผนฟรีที่ดีที่สุดของอุตสาหกรรม แต่บริการให้คุณสามารถบันทึกได้แค่ 50 รหัสผ่านบนอุปกรณ์เดียว อย่างไรก็ตามแผน Premium และ Family นำเสนอฟีเจอร์ทั้งหมดของ Dashlane โดยไม่มีข้อจำกัดใด ๆ ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุด
ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยของ Dashlane
Dashlane ใช้การเข้ารหัส 256-bit AES เพื่อเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดในที่เก็บรหัสผ่านของผู้ใช้
การเข้ารหัสประเภทนี้ไม่สามารถถูกเจาะได้ โดยใช้ทั่วไปในธนาคารและหน่วยทหารทั่วโลกและยังได้รับการรับรองจาก NSA (หน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ) ด้วย
Dashlane เข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดของคุณภายในอุปกรณ์ ซึ่งหมายความว่ารหัสผ่านและข้อมูลสำคัญอื่น ๆ ของคุณจะไม่ปรากฏบนเซิร์ฟเวอร์ของ Dashlane ดังนั้นข้อมูลในที่เก็บรหัสผ่าน Dashlane ของคุณจะไม่มีวันถูกส่งออกจากอุปกรณ์ของคุณ นี่เป็นสิ่งที่ดีเพราะแม้ว่า Dashlane จะถูกเข้าถึงได้ แต่ข้อมูลของคุณจะไม่สามารถถูกเข้าถึงได้ (แต่ Dashlane ไม่เคยถูกบุกรุกแต่อย่างใด)
Dashlane ยังมีโปรโตคอลการไม่จดจำข้อมูล ซึ่งหมายความว่าคุณเป็นคนเดียวที่สามารถเข้าถึงที่เก็บข้อมูลของ Dashlane ของคุณได้ แม้แต่เจ้าหน้าที่ของ แม้แต่ Dashlane ก็ไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาในบัญชีของคุณได้ แต่มันยังหมายความว่า Dashlane ไม่สามารถช่วยคุณกู้คืนบัญชีของคุณได้ หากคุณทำรหัสผ่านหลักหาย
อย่างไรก็ตาม Dashlane มีตัวเลือกการกู้คืน 1 บัญชี หากคุณเปิดใช้งานการเข้าสู่ระบบไบโอเมตริกซ์บนอุปกรณ์ Android หรือ iOS ของคุณ คุณสามารถรีเซ็ตรหัสผ่านหลักได้จากที่นั่นโดยไม่สูญเสียข้อมูลใด ๆ คู่แข่งอันดับระดับชั้นนำอย่าง LastPass ยังมีตัวเลือกการกู้คืนบัญชีที่หลากหลายรวมถึง การเข้าสู่ระบบไบโอเมตริกซ์ การกู้คืน SMS และรหัสผ่านการกู้คืนแบบใช้ครั้งเดียว แต่เครื่องมือจัดการรหัสผ่านหลาย ๆ บริการ รวมถึง Sticky Password, Bitwarden และ Enpass ไม่ได้นำเสนอตัวเลือกการกู้คืนบัญชีเลย ดังนั้นการที่ Dashlane นำเสนอตัวเลือกการเข้าถึงที่เก็บรหัสผ่านของคุณอีกครั้ง เมื่อคุณทำรหัสผ่านหลักหายนั้นเป็นสิ่งที่ดีมาก
Dashlane ยังมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม ได้แก่ :
- การยืนยัน 2 ขั้นตอน (2FA)
- การตรวจสอบความแข็งแกร่งของรหัสผ่าน
- การแบ่งปันรหัสผ่านที่ปลอดภัย
- เครือข่ายส่วนตัวเสมือน (VPN)
- การตรวจสอบดาร์กเว็บ
- การเข้าถึงฉุกเฉิน (Emergency Access)*
คู่แข่งระดับพรีเมียมส่วนใหญ่เสนอ 2FA การตรวจสอบความปลอดภัยของรหัสผ่านและการแบ่งปันรหัสผ่านที่ปลอดภัย แต่ Dashlane เป็นหนึ่งในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่นำเสนอการตรวจสอบดาร์กเว็บแบบเรียลไทม์และการเข้าถึงฉุกเฉิน Dashlane ยังเป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านเดียวในตลาดที่นำเสนอ VPN ที่ใช้งานง่าย ปลอดภัยและรวดเร็วเท่ากับ VPN แบบสแตนด์อโลนบางตัว
โดยรวมแล้ว Dashlane มีฟีเจอร์ทั้งหมดที่คุณต้องการเพื่อรักษารหัสผ่านของคุณให้ปลอดภัย รวมทั้งเครื่องมือพิเศษหลายอย่างที่ทำให้บริการนี้เป็นหนึ่งในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านชั้นนำ
*ในขณะที่เขียนรีวิวนี้ การเข้าถึงฉุกเฉิน (Emergency Access) เป็นฟีเจอร์เดียวที่ยังคงรอดำเนินการหลังจากการเปลี่ยนแปลงล่าสุดของ Dashlane จากการเปลี่ยนแอปเดสก์ท็อปเป็นเว็บแอป อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าที่จะเปิดตัวอีกครั้ง แต่ Dashlane นั้นนำเสนอชุดเครื่องมือฉุกเฉินพื้นฐานในระหว่างนี้และผู้ใช้ยังสามารถใช้ฟีเจอร์การแบ่งปันรหัสผ่านเป็นทางเลือกชั่วคราวได้อีกด้วย
ที่จัดเก็บรหัสผ่าน
ในตอนนี้ Dashlane ได้เปลี่ยนมาเป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านบนเว็บอย่างสมบูรณ์แล้ว บริการเคยเสนอแอปเดสก์ท็อปสำหรับ Windows และ Mac แต่ตอนนี้เลิกใช้งานแล้ว เว็บแอปที่อัปเดตใหม่มีฟีเจอร์และทำงานในลักษณะเดียวกับแอปเดสก์ท็อปรุ่นเก่า แต่มีการปรับปรุงหลายอย่าง
ในเว็บแอปของ Dashlane คุณสามารถจัดเก็บรหัสผ่าน, บันทึกย่อ (เช่น เอกสารทางกฎหมาย, รหัส Wi-Fi หรือใบอนุญาตซอฟต์แวร์), ข้อมูลส่วนบุคคล (ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์), ข้อมูลการชำระเงิน (บัตรเครดิต/เดบิตและบัญชีธนาคาร) และบัตรประจำตัว (ใบขับขี่, หนังสือเดินทาง, บัตรประกันสังคมและอื่น ๆ)
แม้ว่ารายการทั้งหมดของ Dashlane จะมีรายละเอียดค่อนข้างมาก (เช่นผู้ใช้สามารถเพิ่มสีของบัตรเครดิต/เดบิตของตนได้) แต่ฉันก็ยังอยากเห็น Dashlane เพิ่มช่องที่กำหนดเองสำหรับแต่ละรายการ Bitwarden ให้ผู้ใช้เพิ่มฟิลด์ที่กำหนดเองให้กับแต่ละรายการได้ตามต้องการและ LastPass ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างรายการที่กำหนดเองได้ทั้งหมด
ฉันยังต้องการให้ Dashlane นำเสนอตัวเลือกในการสร้างห้องเก็บรหัสผ่านแยกกัน ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยให้คุณสามารถจัดเรียงและจัดระเบียบรหัสผ่านทั้งหมดได้ง่ายขึ้น เช่นเดียวกับที่ 1Password นำเสนอ ด้วย 1Password คุณจะสามารถสร้างห้องเก็บรหัสผ่านได้มากเท่าที่คุณต้องการ (ที่เก็บส่วนตัว สำหรับที่ทำงาน ครอบครัว การเดินทาง ฯลฯ) ซึ่งมอบความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นอีกระดับ
สิ่งหนึ่งที่ฉันชอบมากที่สุดเกี่ยวกับที่เก็บรหัสผ่านผ่านของ Dashlane คือฟีเจอร์การเปลี่ยนรหัสผ่าน— มันเข้าสู่เว็บไซต์ที่รองรับและเปลี่ยนรหัสผ่านของคุณสำหรับเว็บไซต์เหล่านั้นได้ในคลิกเดียว ปัจจุบันนี้เครื่องมือเปลี่ยนรหัสผ่านของ Dashlane ใช้งานได้มากกว่าใน 200 เว็บไซต์ รวมถึง Twitter, Zoom, Canva และ Airtable
นอกจากนี้เครื่องมือเปลี่ยนรหัสผ่านของ Dashlane ยังสามารถเปลี่ยนรหัสผ่านสำหรับหลาย ๆ เว็บไซต์พร้อมกันได้ ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านเพียงตวเดียวที่สามารถทำได้ LastPass มีเครื่องมือเปลี่ยนรหัสผ่านทันที แต่อนุญาตให้คุณเปลี่ยนรหัสผ่านทีละรายการเท่านั้นและใช้ได้กับประมาณ 70 เว็บไซต์ และ ชุดความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ตของ Norton ยังมีเครื่องมือเปลี่ยนรหัสผ่านในแอพพลิเคชันเครื่องมือจัดการรหัสผ่าน แต่ Dashlane นั้นยังให้บริการได้ดีกว่า
ในขณะนี้มีเว็บไซต์ยอดนิยมเพียงไม่กี่แห่งที่สนับสนุนเครื่องมือเปลี่ยนรหัสผ่านของ Dashlane แต่ฟีเจอร์นี้ยังคงมีประโยชน์มากและจะดีขึ้นกว่านี้เมื่อ Dashlane เพิ่มเว็บไซต์มากขึ้น เครื่องมือเปลี่ยนรหัสผ่านมีให้ใช้งานบนแอพพลิเคชั่นเดสก์ท็อปเท่านั้น แต่จะเพิ่มลงในแอพพลิเคชั่นเว็บเร็ว ๆ นี้
โดยรวมแล้วที่เก็บรหัสผ่านผ่านของ Dashlane นั้นใช้งานง่าย มีการจัดระเบียบที่ดีและช่วยให้ผู้ใช้บันทึกทุกอย่างตั้งแต่รหัสผ่านไปจนถึงบัตรประจำตัวประชาชนและบันทึกที่สำคัญ ฉันต้องการเห็น Dashlane มีตัวเลือกการปรับแต่งรายการและจะดีกว่านี้หากสามารถสร้างโฟลเดอร์แยกต่างหากสำหรับจัดระเบียบรหัสผ่าน ในทางกลับกันรายการของ Dashlane นั้นมีรายละเอียดมากพอสมควรอยู่แล้วและ Dashlane ช่วยให้คุณจัดระเบียบรหัสผ่านตามหมวดหมู่ได้ Dashlane ยังเป็นหนึ่งในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่นำเสนอเครื่องมือเปลี่ยนรหัสผ่านอัตโนมัติ ซึ่งสามารถใช้งานได้บนมากกว่า 200 เว็บไซต์และสามารถเปลี่ยนรหัสผ่านหลายรายการพร้อมกันได้
การยืนยัน 2 ขั้นตอน (2FA)
Dashlane นำเสนอตัวเลือกการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA) ที่หลากหลาย
เมื่อคุณเปิดใช้งาน 2FA คุณจะต้องยืนยันตัวตนสองขั้นตอนทุกครั้งที่คุณลงชื่อเข้าใช้บัญชี Dashlane ของคุณหรือทุกครั้งที่คุณลงชื่อเข้าใช้ที่เก็บรหัสผ่านของ Dashlane จากอุปกรณ์ใหม่
2FA ของ Dashlane เป็นแอปยืนยันตัวตนแบบ TOTP ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับแอปยืนยันตัวตนเช่น Google Authenticator, Duo Mobile, Authy เป็นต้น หรือคุณสามารถใช้โปรแกรมต่าง ๆ เช่น WinAuth ได้หากไม่มีอุปกรณ์เคลื่อนที่แยกต่างหาก
ทันทีที่คุณตั้งค่า 2FA แล้ว Dashlane ยังให้รหัสสำรองแก่คุณอีกด้วย รหัสเหล่านี้ช่วยให้คุณเข้าถึงที่เก็บรหัสผ่านของคุณ หากคุณทำอุปกรณ์ที่มีแอปยืนยันตัวตร 2FA หาย
ฉันรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยที่ Dashlane ยกเลิกการใช้ U2F เป็นตัวเลือกอีกแบบนึงของ 2FA บริการชั้นนำอย่าง 1Password นำเสนอตัวเลือกในการยืนยัน 2FA ด้วย YubiKey และ Titan (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Dashlane vs 1Password ได้ที่นี่)
Dashlane ยังรองรับการเข้าสู่ระบบด้วยไบโอเมตริกซ์ ตัวเลือกนี้สามารถใช้ได้ทั้งบน Android และ iOS (Touch ID รวมถึง Face ID บนอุปกรณ์ iOS ที่รองรับ) รวมถึงบน Windows (โดยใช้การตรวจสอบลายนิ้วมือผ่าน Windows Hello) และ Mac (บน Touch ID อุปกรณ์ที่มี Touch Bar) การใช้การเข้าสู่ระบบด้วยไบโอเมตริกซ์เป็นวิธีรักษาความปลอดภัยบัญชี Dashlane ที่สะดวกกว่า มากกว่าการใช้แอปยืนยันตัวตนอีกและปลอดภัยพอ ๆ กันอีกด้วย
โดยรวมแล้ว Dashlane เสนอตัวเลือก 2FA ที่ดี ซึ่งสามารถได้ใช้งานกับแอปยืนยันตัวตนยอดนิยมทั้งหมดและมีตัวเลือกการเข้าสู่ระบบด้วยไบโอเมตริกซ์ที่หลากหลาย ฉันชอบที่ Dashlane ให้รหัสสำรองด้วย น่าเสียดายที่บริการไม่รองรับคีย์ความปลอดภัย U2F อีกต่อไป แต่ฉันชอบที่ Dashlane นำเสนอตัวเลือกให้ใช้ Yubikey แทนการพิมพ์รหัสผ่านหลักของคุณ
เครื่องมือสร้างรหัสผ่าน
เครื่องมือสร้างรหัสผ่านของ Dashlane นั้นใช้งานง่าย ทำงานได้ดีและให้คุณสร้างรหัสผ่านที่มีตัวเลข ตัวอักขระ สัญลักษณ์และอักขระที่คล้ายกัน (เช่น Z และ 2) เครื่องมือสร้างรหัสผ่านสามารถเข้าถึงได้ผ่านส่วนขยายเบราว์เซอร์และแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ และยังแสดงโดยอัตโนมัติเมื่อคุณสร้างบัญชีใหม่ อย่างไรก็ตามมันไม่สามารถใช้ได้โดยตรงในเว็บแอป แม้แต่ตอนเพิ่มรหัสผ่านใหม่ในที่เก็บรหัสผ่านของคุณ ซึ่งฉันคิดว่ามันแปลกนิดหน่อย
ในแอพพลิเคชั่นเดสก์ท็อปเครื่องมือสร้างรหัสผ่านจะสร้างรหัสผ่านยาว 12 อักขระตามค่าเริ่มต้น แต่ Dashlane ได้ขยายความยาวของรหัสผ่านเริ่มต้นเป็น 16 ในส่วนขยายของเบราว์เซอร์และแอพพลิเคชั่นบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ การใช้ทั้งแอพพลิเคชั่นและส่วนขยายของเบราว์เซอร์ผู้ใช้สามารถสร้างรหัสผ่านที่มีความยาวสูงสุด 40 อักขระ (ต่ำสุด 4 ตัวอักขระ)
ความยาวรหัสผ่านเริ่มต้นของ Dashlane นั้นคล้ายกับเครื่องมือจัดการรหัสผ่านอื่น ๆ เช่น LastPass จะสร้างรหัสผ่านความยาว 12 อักขระตามค่าเริ่มต้นและ Sticky Password และ Password Boss จะสร้างรหัสผ่านยาว 20 อักขระโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามแบรนด์คู่แข่งส่วนใหญ่สามารถสร้างรหัสผ่านที่มากกว่าขีดจำกัด 40 อักขระของ Dashlane ได้ LastPass และ Sticky Password มีขีดจำกัดสูงสุด 99 อักขระ ในขณะที่ RoboForm ให้คุณสามารถสร้างรหัสผ่านที่มีความยาวสูงสุด 500 อักขระ
นอกจากนี้ Dashlane ให้คุณสามารถสร้างรหัสจากชุดตัวเลข อักษรและสัญลักษณ์แบบสุ่มได้เท่านั้น ในขณะที่ 1Password และ Enpass มีตัวเลือกในการสร้างข้อความรหัสผ่าน (เช่น “stone-battery-kite-staple”) แต่โปรแกรมสร้างรหัสผ่านของ Dashlane ก็สามารถสร้างรหัสผ่านที่มีความปลอดภัยสูงได้ ซึ่งนี่เป็นสิ่งสำคัญ
ฟีเจอร์หนึ่งที่ฉันชอบเป็นพิเศษคือ เครื่องมือสร้างประวัติของ Dashlane นี่เป็นฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมหากคุณใช้รหัสผ่านที่สร้างขึ้นเพื่อสร้างบัญชี แต่ได้ปิดการบันทึกอัตโนมัติไว้ (หรือลืมบันทึกด้วยเหตุผลอื่น) คุณสามารถตรวจสอบประวัติและคัดลอกและบันทึกรหัสผ่านที่สร้างขึ้นไปยังที่เก็บรหัสผ่านของ Dashlane ได้ด้วยตนเอง แทบไม่มีบริการไหนนำเสนอประวัติรหัสผ่านเลย ดังนั้นการที่ Dashlane นำเสนอฟีเจอร์นี้จึงยอดเยี่ยมมาก
ในทางกลับกันฉันต้องการให้ Dashlane เพิ่มเครื่องมือสร้างรหัสผ่านอัจฉริยะเหมือนที่ 1Password นำเสนอ ซึ่งสามารถสร้างรหัสผ่านที่ตรงกับข้อกำหนดเฉพาะของเว็บไซต์ได้
โดยรวมแล้วเครื่องมือจัดการรหัสผ่านของ Dashlane นั้นค่อนข้างธรรมดาแต่ก็ทำให้บริการได้ดี ฉันอยากเห็น Dashlane มีตัวเลือกขั้นสูงเพิ่มเติมสำหรับการสร้างรหัสผ่าน รวมถึงตัวเลือกในการสร้างรหัสผ่านที่ “อ่านง่าย” หรือ “พูดง่าย” ถึงแม้จะไม่มีตัวเลือกเหล่านี้ เครื่องมือจัดการรหัสผ่านของ Dashlane ก็สามารถสร้างรหัสผ่านที่มีความปลอดภัยสูงและฟีเจอร์การสร้างประวัติก็เป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยม
การแบ่งปันรหัสผ่าน
Dashlane ช่วยให้แบ่งปันรหัสผ่านและบันทึกความปลอดภัยกับผู้อื่นได้ง่ายมาก
ในการแบ่งปันรายการกับผู้ใช้ สิ่งที่คุณต้องทำคือป้อนที่อยู่อีเมลของบุคคลนั้นและเลือกว่าจะให้สิทธิ์แบบจำกัดหรือเต็มรูปแบบ:
- การจำกัดสิทธิ์ – ผู้รับสามารถใช้รหัสผ่านที่ใช้ร่วมกันเท่านั้น (ไม่สามารถมองเห็นได้)
- สิทธิ์เต็มรูปแบบ – ผู้รับมีสิทธิ์เช่นเดียวกับคุณ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถดู ใช้ แก้ไข แบ่งปันและเพิกถอนการเข้าถึงรหัสผ่านได้
โปรดทราบว่าคุณสามารถเพิกถอนการเข้าถึงรหัสผ่านที่ใช้ร่วมกันของผู้รับได้ทุกเมื่อ
Dashlane Free ให้คุณสามารถแบ่งปันได้มากถึง 5 บัญชี แต่แผนPremium, และFamily นั้นจะไม่มีการจำกัดการแบ่งปัน มันเป็นสิ่งที่ดีมากเพราะว่าเครื่องมือจัดการรหัสผ่านจำนวนมากจำกัดจำนวนผู้ใช้ที่คุณสามารถแบ่งปันรหัสผ่านด้วยแผนพรีเมียมของพวกเขาได้ (ผู้ใช้ Bitwarden Premium ไม่สามารถแบ่งปันรหัสผ่านได้เลย แต่ผู้ใช้ Bitwarden Family สามารถแบ่งปันรหัสผ่านกับผู้ใช้อื่น ๆ อีก 6 คน) เครื่องมือจัดการรหัสผ่านอย่าง Panda Dome Passwords ไม่มีบริการแบ่งปันรหัสผ่านด้วยซ้ำ!
สิ่งหนึ่งที่ฉันไม่ชอบเกี่ยวกับฟีเจอร์การแบ่งปันรหัสผ่านของ Dashlane ก็คือ ผู้ใช้ในแผน Family ไม่สามารถเลือกได้ว่าจะแบ่งปันรหัสผ่านจากที่เก็บไหนได้บ้าง ไม่เหมือนกับที่ 1Password และ LastPass นำเสนอ แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เนื่องจากการแบ่งปันข้อมูลรหัสผ่านหลายรายการด้วยตนเองนั้นใช้เวลาไม่เกิน 2-3 วินาที
ฉันอยากให้ Dashlane เพิ่มตัวเลือกในการแชร์รหัสผ่านกับใครก็ได้ ตอนนี้บริการให้คุณสามารถแบ่งปันกับผู้ใช้ Dashlane ด้วยกันได้เท่านั้น บริการอื่นอย่าง 1Password เป็นหนึ่งในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ไม่ได้บังคับให้ผู้รับรหัสผ่านต้องสร้างบัญชีเพื่อเข้าถึงและใช้รหัสผ่านที่แบ่งปัน
โดยรวทแล้ว Dashlane มีฟีเจอร์การแบ่งปันรหัสผ่านที่ดี การแบ่งปันรหัสผ่านอย่างน้อยหนึ่งรหัสหรือบันทึกกับผู้รับหนึ่งคนหรือมากกว่านั้นเป็นเรื่องง่ายมากและผู้ใช้ยังสามารถเลือกได้ว่าจะจำกัดสิทธิ์ผู้รับหรือให้สิทธิ์เต็มรูปแบบก็ได้ ฉันชอบที่ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนใจได้ตลอดเวลาและเพิกถอนการเข้าถึงรายการด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง
เครื่องมือตรวจสอบความสมบูรณ์ของรหัสผ่าน
Password Health ของ Dashlane เป็นเครื่องมือตรวจสอบรหัสผ่านที่จะสแกนบัญชีที่บันทึกไว้ทั้งหมดของคุณอย่างต่อเนื่อง เพื่อหารหัสผ่านที่ถูกบุกรุก ใช้ซ้ำและอ่อนแอ และยังให้คะแนนความสมบูรณ์ของรหัสผ่านโดยรวมอีกด้วย
Password Health ของ Dashlane ไม่ใช่เครื่องมือที่เป็นเอกลักษณ์อะไรเท่าไหร่ – คู่แข่งจำนวนมากมีฟีเจอร์ที่คล้ายกันเช่น LastPass, 1Password, Keeper และ Password Boss แต่เครื่องมือตรวจสอบความปลอดภัยรหัสผ่านของ Dashlane ทำงานได้ดีมาก แถมยังช่วยให้คุณสามารถแยกรหัสผ่านบางส่วนออกจาก คะแนนความสมบูรณ์ของรหัสผ่านโดยรวม
ในระหว่างการทดสอบของฉัน Dashlane ตั้งค่าสถานะบัญชีจำลองทั้งหมดของฉันเป็นรหัสผ่านซ้ำและสิ่งนี้ส่งผลต่อ “คะแนนสภาวะความพร้อมของรหัสผ่าน” ของฉันอย่างมาก
จากนั้น Dashlane แจ้งให้ฉันเปลี่ยนรหัสผ่านเหล่านี้ – ฉันต้องไปที่แต่ละเว็บไซต์ด้วยตนเองและเปลี่ยนรหัสผ่านทีละรายการ น่าเสียดายที่เครื่องมือเปลี่ยนรหัสผ่านอัตโนมัติของ Dashlane ไม่สามารถช่วยคุณได้ในเรื่องนี้ แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อมีการติดตั้งเครื่องมือเปลี่ยนรหัสผ่านในแอพพลิเคชั่นเว็บ
ฟีเจอร์ Password Health ของ Dashlane เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากที่ช่วยให้แน่ใจว่ารหัสผ่านทั้งหมดของคุณมีความปลอดภัยมากที่สุด – เครื่องมือนี้มีให้บริการในทั่วไป แต่ใช้งานได้ดี ใช้งานง่ายและช่วยให้คุณระบุได้อย่างรวดเร็วว่ารหัสผ่านใดที่อ่อนแอ ซ้ำกันหรือถูกละเมิด
VPN (เครือข่ายส่วนตัวเสมือน)
Dashlane เป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านเดียวในตลาดที่ให้บริการ VPN VPN เข้ารหัสการรับส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตของคุณและเปลี่ยนหมายเลข IP ของคุณ รักษาความปลอดภัยการใช้งาน ป้องกันไม่ให้ใครสามารถติดตามกิจกรรมทางอินเทอร์เน็ตของคุณและช่วยให้คุณเลี่ยงข้อจำกัดบนอินเทอร์เน็ตและไฟร์วอลล์
VPN ของ Dashlane ให้บริการโดย Hotspot Shield ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ VPN ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาด เช่นเดียวกับเครื่องมือจัดการรหัสผ่านของ Dashlane บริการ VPN จะใช้การเข้ารหัส 256-bit AES ที่ไม่สามารถเจาะถึงได้ Dashlane ยังมีนโยบายไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด ซึ่งหมายความว่าจะไม่ติดตามหรือจัดเก็บกิจกรรมของผู้ใช้ใด ๆ (เช่นเว็บไซต์ที่คุณเยี่ยมชมหรือไฟล์ที่คุณดาวน์โหลด)
สิ่งที่ยอดเยี่ยมอีกอย่างเกี่ยวกับ VPN ของ Dashlane – คุณสามารถใช้ข้อมูลได้มากเท่าที่คุณต้องการ นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก VPN “โบนัส” ส่วนใหญ่ที่มาพร้อมกับผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยอื่น ๆ มักกำหนดขีดจำกัดการใช้งานที่เข้มงวด ตัวอย่างเช่น VPN ของ Kaspersky ที่จำกัดข้อมูลผู้ใช้ฟรีไว้ที่ 300 MB ต่อวันและ VPN ของ Panda ที่จำกัดข้อมูลผู้ใช้ไว้ที่ 150 MB ต่อวันสำหรับแผนส่วนใหญ่
VPN ของ Dashlane มีเซิร์ฟเวอร์ใน 26 ประเทศ ฉันทดสอบเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดของ Dashlane รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ที่แนะนำ (เร็วที่สุด)
นี่คือความเร็วอินเทอร์เน็ตของฉันโดยไม่เปิด VPN และเมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดของ Dashlane
ping ของฉันช้าลงเล็กน้อย แต่ความเร็วในการดาวน์โหลดและอัพโหลดของฉันเร็วขึ้นเล็กน้อยเมื่อเปิด VPN ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่น่าประทับใจมากเทียบกับบริการชั้นนำในอุตสาหกรรม VPN เช่น ExpressVPN และ ProtonVPN
ฉันยังทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตของฉันเมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ Dashlane ที่อยู่ห่างไกลออกไป:
Ping ของฉันเพิ่มขึ้นอีกครั้ง แต่ความเร็วในการดาวน์โหลดและอัพโหลดของฉันลดลงเพียงเล็กน้อยและฉันยังใช้งานอินเทอร์เน็ตและดูวิดีโอได้เร็วเหมือนไม่ใช้ VPN
VPN ของ Dashlane มีความเร็วที่รวดเร็วและเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการสตรีม ทอร์เรนต์และเล่นเกม — ในระหว่างการทดสอบ ฉันสามารถรับชมวิดีโอ ดาวน์โหลดไฟล์และเล่นเกมได้อย่างต่อเนื่อง
VPN ของ Dashlane ยังมาพร้อมกับ Kill switch, Split tunneling และรองรับ P2P (ทอร์เรนต์) แต่ฟีเจอร์เหล่านี้มีให้ใช้บนอุปกรณ์ Windows และ Android เท่านั้น ไม่มีให้บริการใน iOS หรือ Mac
Kill switch เป็นฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดใน VPN ซึ่งจะยุติการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณ หากการเชื่อมต่อของคุณถูกรบกวน ดังนั้นฉันอยากให้ Dashlane รวมสิ่งนี้ไว้กับทุกแพลตฟอร์ม หากคุณต้องการ VPN ที่นำเสนอ Kill switch บนแพลตฟอร์มหลักทั้งหมด (รวมถึง macOS และ iOS) ให้ลองใช้บริการ VPN สแตนอโลนด์อย่าง ExpressVPN หรือ Private Internet Access
โดยรวมแล้ว VPN ของ Dashlane ทำงานได้ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ดีเท่า VPN แบบสแตนด์อโลนจำนวนมาก แต่ก็ปลอดภัย รวดเร็วและใช้งานง่าย
การตรวจสอบดาร์กเว็บ
การตรวจสอบดาร์กเว็บจะสแกนดาร์กเว็บเพื่อหาที่อยู่อีเมลและข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ของคุณและแจ้งให้คุณทราบในกรณีที่ข้อมูลของคุณรั่วไหลเนื่องจากการละเมิดข้อมูล
การตรวจสอบดาร์กเว็บของ Dashlane มีดังต่อไปนี้:
- การตรวจสอบตลอด 24/7
- ตรวจสอบได้สูงสุด 5 อีเมล์
- แจ้งเตือนการละเมิดความปลอดภัยข้อมูล
เครื่องมือจัดการรหัสผ่านจำนวนมาก รวมถึง Sticky Password และ Enpass ไม่มีการตรวจสอบดาร์กเว็บและคู่แข่งส่วนใหญ่อย่าง 1Password, Password Boss และRoboForm มีการตรวจสอบดาร์กเว็บ ซึ่งใช้ฐานข้อมูลฟรีของ Have I Been Pwned?
ในทางกลับกัน Dashlane ใช้ข้อมูลของตัวเองที่โฮสต์บนเซิร์ฟเวอร์ของตัวเอง – Dashlane มีบันทึกการละเมิดข้อมูลมากกว่า 12 พันล้านรายการโดยมีการเพิ่มข้อมูลใหม่เกือบล้านรายการในแต่ละวัน นอกจากนี้ Dashlane ยังตรวจสอบที่อยู่อีเมลของคุณและข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งที่ให้บริการเฉพาะการสแกนดาร์กเว็บตามต้องการเท่านั้น และหาก Dashlane พบว่าอีเมลของคุณถูกละเมิดข้อมูล พวกเขาจะส่งการแจ้งเตือนในทันที
ฉันทดสอบการตรวจสอบดาร์กเว็บของ Dashlane โดยเรียกใช้การสแกนในอีเมลทดสอบของฉัน
Dashlane พบว่าอีเมลทดสอบของฉันรั่วไหล 5 ครั้ง มันแสดงให้ฉันเห็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดข้อมูล วันที่เกิดการละเมิดและประเภทของข้อมูลที่รั่วไหล เนื่องจาก Dashlane พบว่าข้อมูลของฉันรั่วไหล พวกเขาจึงสนับสนุนให้ฉันเปลี่ยนรหัสผ่านทั้งหมดสำหรับเว็บไซต์ที่ถูกละเมิด เท่านี้ – ข้อมูลที่ถูกการละเมิดถูกทำเครื่องหมายว่าได้รับการแก้ไขทันทีที่ฉันเปลี่ยนรหัสผ่าน
เครื่องมือตรวจสอบดาร์กเว็บของ Dashlane นั้นดีที่สุดที่ฉันได้ทดสอบมา Dashlane ให้บริการสแกนดาร์กเว็บแบบเรียลไทม์ โดยจะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบหากพบอีเมลรั่วไหลในขณะที่เกิดการละเมิด นอกจากนี้ยังใช้งานง่าย ครอบคลุมอีเมลสูงสุด 5 รายการและนำเสนอวิธีง่าย ๆ ในการแก้ไขบัญชีที่ถูกละเมิด
การเข้าถึงฉุกเฉิน
การเข้าถึงฉุกเฉินช่วยให้คุณสามารถเลือกผู้ติดต่อที่เชื่อถือได้ ซึ่งสามารถเข้าถึงรหัสผ่านและบันทึกบางส่วนหรือทั้งหมดของคุณในกรณีฉุกเฉินได้
อย่างไรก็ตามในขณะที่เขียน ฟีเจอร์การเข้าถึงฉุกเฉินของ Dashlane ยังไม่พร้อมให้ใช้งานและดูเหมือนว่าอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าที่จะเปิดตัวอีกครั้ง
การเข้าถึงฉุกเฉินเป็นฟีเจอร์ที่ Dashlane นำเสนอไว้ก่อนหน้านี้ผ่านแอปเดสก์ท็อป อย่างไรก็ตาม เมื่อเปลี่ยนจากเดสก์ท็อปเป็นแอปเว็บ แทนที่บริการจะสร้างฟีเจอร์เดียวกันในส่วนขยายเว็บใหม่ Dashlane ได้ใช้โอกาสนี้ในการสร้างเวอร์ชันที่ได้รับการปรับปรุง ที่ง่ายต่อการใช้งาน นำเสนอทางเลือกการแบ่งปันมากขึ้นและมีประโยชน์มากกว่าเวอร์ชั่นก่อน แต่น่าเสียดายที่มันยังไม่พร้อมใช้งาน
ในระหว่างนี้ Dashlane นำเสนอตัวเลือกการชุดฉุกเฉิน (Emergency Kit) ใหม่
ชุดฉุกเฉินของ Dashlane นั้นจะนำรหัสทั้งหมดในที่เก็บรหัสผ่านออกไปยังไฟล์ “DASH” ที่ป้องกันด้วยรหัสผ่าน จากนั้น คุณจะได้รับแจ้งให้แชร์ไฟล์นี้กับผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉินของคุณ (หรือแจ้งให้พวกเขาทราบว่าสามารถเข้าถึงได้จากที่ใด) จากนั้นจึงแชร์รหัสผ่านกับบุคคลเหล่านี้ ผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉินของคุณสามารถนำเข้าไฟล์นี้ไปยังที่เก็บรหัสผ่านของตนเองได้
ทั้งการส่งออกและนำเข้าสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว นี่จึงเป็นทางออกที่ดี อย่างไรก็ตามข้อมูลจะอัปเดตตามการดาวน์โหลดครั้งล่าสุดเท่านั้น ดังนั้นหากคุณเปลี่ยนรหัสผ่านบ่อย ๆ และลืมนำออกและแชร์ไฟล์เวอร์ชันใหม่ มันจะไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก
ซึ่งแตกต่างจากฟีเจอร์การเข้าถึงฉุกเฉินอย่างเป็นทางการของ Dashlane การนำออกนี้จะนำเสนอข้อมูลทุกรายการในที่เก็บรหัสผ่านของคุณ คุณไม่สามารถจำกัดข้อมูลที่นำออกได้ ซึ่ง Password Boss นำเสนอในสิ่งนี้ เมื่อคุณแชร์ไฟล์แล้ว พวกเขาสามารถใช้งานไฟล์นี้ได้ทุกเมื่อตามต้องการโดยที่คุณไม่รู้ตัวได้
อีกทางเลือกหนึ่งคือ การแบ่งปันข้อมูลบางอย่างกับผู้ติดต่อในกรณีฉุกเฉินของคุณผ่านฟีเจอร์การแบ่งปันของ Dashlane ซึ่งหมายความว่าผู้ติดต่อของคุณจะได้รับข้อมูลล่าสุดอยู่เสมอ แต่ก็หมายความว่าพวกเขาจะสามารถเข้าถึงที่เก็บรหัสผ่านได้โดยสมบูรณ์ทันที
มันน่าเสียดายมากที่ Dashlane ไม่ได้สร้างฟีเจอร์การเข้าถึงฉุกเฉินเวอร์ชันใหม่ให้พร้อมก่อนที่จะปิดแอปเดสก์ท็อป ดีที่อย่างน้อยก็มีวิธีแก้ปัญหาชั่วคราวอื่น ๆ แต่มันก็ให้บริการได้ไม่ดีเท่า
แต่เครื่องมือจัดการรหัสผ่านจำนวนมาก รวมถึง Enpass และBitwardenไม่ได้เสนอการเข้าถึงฉุกเฉินใด ๆ และการเข้าถึงฉุกเฉินเวอร์ชันก่อนหน้าของ Dashlane นั้นไม่ดีเท่าบริการของ Password Boss และ LastPass ซึ่งเป็นสาเหตุที่ Dashlane พยายามปรับปรุง
เมื่อฟีเจอร์พร้อมให้บริการ ฉันแน่ใจว่าการเข้าถึงฉุกเฉินของ Dashlane จะเป็นคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน น่าเสียดายที่ Dashlane ไม่ได้เตรียมฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้พร้อมสำหรับการย้ายแอป แต่ก็ดีที่อย่างน้อยบริการก็นำเสนอวิธีแก้ปัญหาชั่วคราวอื่น ๆ ไว้ให้
แผนการบริการและราคาของ Dashlane
Dashlane มีแผนบริการ 3 แบบ ได้แก่:
- Dashlane Free
- Dashlane Premium
- Dashlane Family
แผนการชำระเงินทั้งสองแบบของ Dashlane มีให้บริการในรูปแบบการสมัครสมาชิกรายเดือนและรายปี ทั้งคู่ยังมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินโดยไม่มีความเสี่ยงเป็นเวลา 30 วัน
Dashlane ยังมีแผนธุรกิจสองแผนที่สามารถรองรับความต้องการของทั้งธุรกิจขนาดเล็กและขนาดใหญ่ (ตอนนี้ Dashlane เป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านสำหรับธุรกิจที่ดีที่สุดอันดับ #2 ในปี 2024) และแผนธุรกิจทั้งสองแผนก็นำเสนอการทดลองใช้งานฟรี
Dashlane Free — มีข้อจำกัด ไม่ดีเท่าไหร่
Dashlane มีแผนฟรีที่ดี แต่ก็มีข้อจำกัดที่น่าหงุดหงิด ซึ่งได้แก่:
- การบันทึกรหัสผ่านสูงสุด 50 รหัส
- ใช้ได้บน 1 อุปกรณ์
- เครื่องมือสร้างรหัสผ่าน
- การกรอกรหัสผ่านในฟอร์มหรือการชำระเงินอัตโนมัติ
- 2FA กับแอพพลิเคชั่นยืนยันตัวตน
- การแบ่งปันรหัสผ่าน (มากถึง 5 บัญชี)
- การแจ้งเตือนความปลอดภัย
- การเข้าถึงฉุกเฉิน
แม้ว่าแผนบริการฟรีของ Dashlane จะมีฟีเจอร์มากมาย แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่มีรหัสผ่านมากกว่า 50 รหัส แถมคุณยังสามารถใช้งาน Dashlane Free ได้แค่บน 1 อุปกรณ์เท่านั้น
แต่ Dashlane เป็นหนึ่งในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีที่ฉันชอบมากที่สุด แต่ถ้าคุณกำลังมองหาแอปที่ซิงค์ได้ในหลายอุปกรณ์ คุณควรพิจารณา LastPass หรือ Aviras Passwort Manager LastPass Free ช่วยให้คุณจัดเก็บรหัสผ่านได้ไม่จำกัดจำนวนบนทั้งมือถือหรือเดสก์ท็อป — แต่ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง แต่ Aviras Passwort Manager มีพื้นที่เก็บรหัสผ่านไม่จำกัดทั้งบนเดกส์ทอปและมือถือ
ถึงกระนั้นทั้งแผนบริการฟรีของ LastPass และ Bitwarden ก็มีข้อจำกัดอื่น ๆ เหมือนกัน ดังนั้นฉันขอแนะนำให้ใช้เครื่องมือจัดการรหัสผ่านระดับพรีเมียมที่ให้การเข้าถึงฟีเจอร์ทั้งหมดอย่างไม่จำกัด Dashlane Free นำเสนอการทดลองใช้งานฟรี 30 วันของ Dashlane Premium ดังนั้นคุณสามารถทดลองใช้งาน Dashlane และดูว่านี่เป็นบริการที่เหมาะสำหรับคุณหรือไม่
Dashlane Premium — คุ้มค่าที่สุด มีฟีเจอร์ครบครัน
แผนสำหรับบุคคลระดับพรีเมียมของ Dashlane มีราคาอยู่ที่ US$4.99 / เดือน แผนมีฟีเจอร์ทั้งหมดที่มีให้ใช้ในแผน Free รวมถึง:
- ซิงค์ได้บนอุปกรณ์ไม่จำกัด
- พื้นที่จัดเก็บรหัสผ่านไม่จำกัด
- แบ่งปันรหัสผ่านไม่จำกัด
- บันทึกที่ปลอดภัย
- เครื่องมือเปลี่ยนรหัสผ่านอัตโนมัติ
- การตรวจสอบดาร์กเว็บและการแจ้งเตือน
- VPN ที่มีแบนด์วิดท์ไม่จำกัด
- ที่จัดเก็บไฟล์ที่ปลอดภัย 1 GB
Dashlane Premium นำเสนอฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากกว่าเครื่องมือจัดการรหัสผ่านอื่น ๆ เกือบทั้งหมด แต่คู่แข่งสำคัญของ Dashlane คือ 1Password และ LastPass ก็มาพร้อมกับฟีเจอร์พิเศษที่ดีเหมือนกันและทั้งคู่ก็มีราคาถูกกว่า
คุณอาจจะมีบางอย่างซ้ำกับฟีเจอร์ของ Dashlane ในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อยู่แล้ว อย่างเช่น แพ็คเกจแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดอย่าง Norton 360ก็นำเสนอการตรวจสอบดาร์กเว็บและ VPN อย่างไรก็ตามอย่าให้สิ่งนี้ทำลายความมั่นใจของคุณ Dashlane ยังคงให้บริการได้คุ้มค่า คุ้มราคา แม้ว่าคุณจะไม่ต้องการฟีเจอร์ทั้งหมดก็ตาม
Dashlane Family — แผนครอบครัวที่ยอดเยี่ยม
แผนสำหรับครอบครัวของ Dashlane มีราคาอยู่ที่ US$7.49 / เดือน แผนนี้นำเสนอทุกอย่างที่ Dashlane Premium มี รวมถึง:
- เพิ่มผู้ใช้อื่นได้อีก 5 คน (รวมแล้วเป็น 6 คน)
- บัญชีพรีเมี่ยมแยกสำหรับผู้ใช้แต่ละคน
- แดชบอร์ดจัดการสำหรับครอบครัว
ฉันคิดว่าแผนสำหรับครอบครัวของ 1Passwords นั้นดีกว่าเล็กน้อยในแง่ของการใช้งาน บริการให้คุณเพิ่มผู้ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนโดยเสียค่าธรรมเนียมเล็กน้อย (ต่อผู้ใช้หนึ่งราย) และการแบ่งปันรหัสระหว่างสมาชิกในครอบครัว แต่ Dashlane Family ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณต้องการฟีเจอร์พิเศษทั้งหมดที่ Dashlane มี รวมถึง VPN การตรวจสอบดาร์กเว็บ เครื่องมือเปลี่ยนรหัสผ่านในคลิกเดียวอละอื่น ๆ อีกมากมาย
ความง่ายในการใช้งานและการตั้งค่าของ Dashlane
Dashlane นั้นติดตั้งและใช้งานได้ง่าย ตอนนี้ Dashlane ใช้งานบนเว็บได้ 100% เพียงแค่ติดตั้งส่วนขยายบนเบราว์เซอร์ เท่านี้ก็พร้อมใช้งานแล้ว
บนเว็บไซต์ของ Dashlane เมื่อคุณคลิก Get Dashlane คุณจะถูกพาไปยังเว็บสโตร์ของอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์ของคุณโดยอัตโนมัติ ซึ่งคุณสามารถติดตั้งส่วนขยายบนเว็บของ Dashlane ได้ เมื่อติดตั้งแล้ว หน้าเว็บจะไปคุณไปยังหน้าสร้างบัญชี (หรือเข้าสู่ระบบ หากคุณมีบัญชีอยู่แล้ว) เท่านี้ก็เรียบร้อย!
ส่วนขยายเบราว์เซอร์ของ Dashlane สามารถใช้ได้กับ Chrome, Firefox, Edge และ Safari และยังใช้ได้กับเบราว์เซอร์ที่ใช้ Chromium เช่น Brave และ Opera ส่วนขยายนี้ให้คุณดูรหัสผ่านที่บันทึกไว้ทั้งหมด, สร้างรหัสผ่านใหม่, บันทึกรหัสผ่านใหม่และป้อนข้อมูลรหัสผ่านและแบบฟอร์มอัตโนมัติ
ฟังก์ชั่นบันทึกอัตโนมัติ ป้อนอัตโนมัติและลงชื่อเข้าใช้อัตโนมัติของ Dashlane ทำงานได้ดีมากในการทดสอบของฉัน Dashlane กรอกรหัสผ่านทั้งหมด ลงชื่อเข้าใช้เว็บไซต์ที่ฉันมีบัญชีและไม่พลาดช่องใด ๆ ในแบบฟอร์มการชำระเงินไปเลย แต่คุณสามารถปิดการบันทึกอัตโนมัติหรือการป้อนอัตโนมัติสำหรับบางเว็บไซต์ได้
คุณยังสามารถเปิดเว็บแอปได้โดยตรงจากส่วนขยายเบราว์เซอร์ของ Dashlane ในเว็บแอป คุณสามารถดู เพิ่มและแก้ไขรายการทั้งหมดในที่เก็บรหัสผ่านของคุณ เข้าถึงฟีเจอร์อื่น ๆ ของ Dashlane เช่น VPN การตรวจสอบดาร์กเว็บและเครื่องมือตรวจสอบความสมบูรณ์ของรหัสผ่าน รวมไปถึงการตั้งค่าทั้งหมดและรายละเอียดบัญชีของคุณ
การนำเข้ารหัสใน Dashlane นั้นทำได้อย่างง่ายดายเช่นกัน คุณสามารถนำเข้ารหัสผ่านจากเบราว์เซอร์ เช่น Chrome, Edge, Firefox หรือเครื่องมือจัดการรหัสผ่านอื่น ๆ เช่น LastPass หรือ 1Password คุณต้องดาวน์โหลดไฟล์เหล่านี้เป็นไฟล์ .csv ก่อน แล้วจึงนำเข้าไฟล์ไปยัง Dashlane หน้าความช่วยเหลือจะอธิบายขั้นตอนทั้งหมดเอาไว้ เมื่อฉันรู้แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง ฉันก็สามารถนำเข้ารหัสผ่านได้ในไม่กี่นาที
แต่เครื่องมือจัดการรหัสผ่านอื่น ๆ เช่น Keeper และ LastPass นำเสนอตัวเลือกการนำเข้าที่ง่ายกว่าด้วยเพียงคลิกเดียวโดยตรงจากเบราว์เซอร์หรือเครื่องมือจัดการรหัสผ่านอื่น ๆ
โดยรวมแล้ว Dashlane ได้รับการออกแบบมาอย่างดีและเป็นหนึ่งในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ใช้งานง่ายที่สุดที่ฉันเคยใช้มา การนำเข้ารหัสผ่านควรปรับปรุงให้ทำได้ง่ายกว่านี้ แต่นี่ก็ถือว่าเป็นกระบวนการที่รวดเร็วอยู่
แอพพลิเคชั่นบนมือถือของ Dashlane
แอปมือถือของ Dashlane มีให้บริการบน Android และ iOS และมันใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม
ซึ่งให้การเข้าถึงฟีเจอร์ส่วนใหญ่ของ Dashlane ใช้งานง่ายมากและทำงานได้ดีอย่างที่โฆษณาไว้
ทันทีที่คุณดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Dashlane จะถามคุณว่าคุณต้องการใช้การเข้าสู่ระบบไบโอเมตริกซ์เพื่อเข้าถึงที่เก็บรหัสผ่านของคุณหรือไม่และคุณต้องการใช้ไบโอเมตริกเป็นตัวเลือกในการกู้คืนบัญชีหรือไม่ ในกรณีที่คุณทำรหัสผ่านหลักของคุณหาย จากนั้น Dashlane จะให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์อย่างมากเกี่ยวกับวิธีใช้แอพพลิเคชั่นมือถือและเมื่อคุณตั้งค่าทั้งหมดแล้ว คุณจะสามารถเข้าถึงที่เก็บรหัสผ่านของคุณ รวมถึงฟีเจอร์อื่น ๆ ทั้งหมดได้
บนแอพพลิเคชั่นบนมือถือของ Dashlane คุณสามารถ:
- ดูข้อมูลทั้งหมดที่คุณบันทึกไว้ในที่เก็บข้อมูล
- สร้างรหัสผ่าน
- บันทึกและกรอกรหัสผ่านอัตโนมัติ
- แบ่งปันรหัสผ่านและบันทึก
- ตรวจสอบว่ารหัสผ่านของคุณอ่อนแอ ซ้ำซ้อนหรือถูกบุกรุกหรือไม่
- รับการแจ้งเตือนหากอีเมล์ของคุณรั่วไหลบนดาร์กเว็บ
- เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตโดยใช้ VPN
- จัดเก็บไฟล์ที่เข้ารหัสได้มากถึง 1 GB
- นำเข้ารหัสผ่าน (Android เท่านั้น)
- เปลี่ยนรหัสผ่านหลัก
แอปมือถือของ Dashlane นั้นใช้งานง่ายมาก ใช้งานง่ายพอ ๆ กับเว็บแอป ระหว่างการทดสอบกับ Samsung Galaxy และ iPhone XS ฉันพบว่าการนำทางและใช้งานฟีเจอร์ทั้งหมดนั้นทำได้ง่ายมากและฟังก์ชันป้อนอัตโนมัติก็ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบทุกครั้ง ฉันไม่พบข้อบกพร่องใด ๆ กับแอปมือถือของ Dashlane นอกเสียจากว่าฉันไม่สามารถนำเข้ารหัสผ่านใน iOS ได้ (ซึ่งไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับฉัน)
Dashlane นำเสนอหนึ่งในแอปมือถือที่ดีที่สุด มันซิงค์ได้อย่างสมบูรณ์แบบกับเว็บแอปและใช้งานได้ง่ายมาก
การสนับสนุนลูกค้าของ Dashlane
Dashlane นำเสนอตัวเลือกการสนับสนุนลูกค้าต่อไปนี้:
- ฐานข้อมูลที่ครอบคลุม
- การสนับสนุนทางอีเมล์
- ไลฟ์แชท จันทร์–ศุกร์ ตั้งแต่ 9 โมง –6 โมงเย็นตามเวลาในอเมริกา (ตะวันออก)
- การสนับสนุนผ่าน Twitter (@DashlaneSupport)
- การสนับสนุนผ่าน Reddit
การช่วยเหลือทางอีเมล ไลฟ์แชทและฐานข้อมูลมีให้บริการในภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศสและเยอรมัน นอกจากนี้ฐานความรู้ยังมีให้บริการในภาษาสเปนอีกด้วย การช่วยเหลือผ่าน Twitter และ Reddit ให้บริการเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
นี่เป็นตัวเลือกการสนับสนุนที่ยอดเยี่ยมมาก Dashlane นั้นเป็นหนึ่งในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่นำเสนอการช่วยเหลือผ่านไลฟ์แชท เช่นเดียวกับ Keeper และ RoboForm
โดยรวมแล้วฉันประทับใจทีมสนับสนุนของ Dashlane มาก ฉันได้รับคำแนะนำที่เป็นมิตรและเป็นประโยชน์ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที ผ่านตัวเลือกไลฟ์แชท
ฉันตอบกลับข้อความนี้และรออีก 24 ชั่วโมงกว่าจะได้รับคำตอบที่เป็นประโยชน์
Dashlane ยังมีฐานความรู้ที่ครอบคลุม แต่ละหัวข้อมีคำแนะนำอย่างละเอียดเพื่อให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาส่วนใหญ่ได้ด้วยตัวเอง ตัวอย่างเช่นฉันมีปัญหาในการติดตั้งส่วนขยาย Firefox แต่ฉันพบวิธีแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วในส่วนคำถามที่พบบ่อย
Dashlane ไม่มีบริการสนับสนุนทางโทรศัพท์ แต่ฉันไม่รู้จักเครื่องมือจัดการรหัสผ่านใด ๆ เลยที่มีบริการนี้ นอกจากนี้ยังไม่มีฟอรัมการสนับสนุน เครื่องมือจัดการรหัสผ่านไม่กี่บริการเท่านั้นที่นำเสนอฟอรัมการสนับสนุน ซึ่งรวมถึง 1Password และ Bitwarden – และฉันพบว่ามันเป็นแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์เมื่อจำเป็น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องดีที่ Dashlane นำสิ่งนี้ไปใช้ในอนาคต
แต่ว่า Dashlane มีการสนับสนุนบน Reddit อย่างเป็นทางการที่มีนักพัฒนาแสดงความคิดเห็นในกระทู้ต่าง ๆ และตอบคำถาม Reddit ทำงานคล้ายกับฟอรัม ดังนั้นคุณสามารถรับการสนับสนุนจากชุมชนอย่างเป็นทางการได้หากจำเป็น
โดยรวมแล้วการสนับสนุนลูกค้าของ Dashlane นั้นถือว่าดีมาก มีช่องทางการสนับสนุนมากมายและแม้ว่าคุณอาจต้องรอสักหน่อยกว่าจะได้รับคำตอบโดยใช้ฟีเจอร์การสนับสนุนทางอีเมล Dashlane ยังมีตัวเลือกการไลฟ์แชทที่ยอดเยี่ยม ฐานความรู้เชิงลึกและแม้แต่หน้า Reddit อย่างเป็นทางการ มันเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณไม่มีประสบการณ์ในการใช้เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน
Dashlane เป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดใน 2024
ในความคิดของฉัน Dashlane นั้นเป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดในปี 2024 บริการนั้นปลอดภัย มีฟีเจอร์มากกว่าบริการอื่น ๆ (มี VPN) และใช้งานได้ง่ายมาก
มันยังมีฟีเจอร์การจัดการรหัสผ่านตามมาตรฐานที่ใช้งานได้ดี ฟังก์ชันบันทึกและป้อนอัตโนมัติที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบในระหว่างการทดสอบ เครื่องมือตรวจสอบความปลอดภัยของรหัสผ่านช่วยให้ฉันเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับรหัสผ่านที่ไม่รัดกุมและซ้ำซ้อนได้ และฟีเจอร์การแบ่งปันรหัสผ่านทำให้ฉันแบ่งปันรหัสผ่านและบันทึกต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย
Dashlane ยังมีบริการเสริมที่เป็นประโยชน์อีกสองสามอย่างที่คู่แข่งส่วนใหญ่ไม่มีให้ รวมถึงเครื่องมือเปลี่ยนรหัสผ่านอัตโนมัติ (LastPass ก็มีฟีเจอร์นี้ แต่ก็ไม่ดีเท่าของ Dashlane) และบริการยังมี VPN ที่ดีมาก พร้อมแบนด์วิดท์ไม่จำกัดและการตรวจสอบดาร์กเว็บแบบเรียลไทม์ที่ให้การแจ้งเตือนทันทีในกรณีที่มีการละเมิดข้อมูลในอีเมลของคุณ
ในขณะที่ฉันแนะนำ Dashlane ให้กับผู้ใช้ทุกคน แต่ฉันก็มีสิ่งที่อยากตำหนิบริการเหมือนกัน ฉันต้องการเห็นการปรับปรุงฟีเจอร์บางอย่างของบริการ รวมถึงเครื่องมือสร้างรหัสผ่านและเครื่องมือแบ่งปันรหัสผ่าน ฉันคิดว่ามันน่าเสียดายที่พวกเขาเลิกใช้คีย์ความปลอดภัย U2F เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของ 2FA ที่สอง นอกจากนี้ Dashlane ยังมีราคาแพงกว่าคู่แข่งระดับชั้นนำเล็กน้อย เช่น 1Password และ RoboForm ซึ่งให้ความคุ้มค่าใกล้เคียงกัน
แต่โดยรวมแล้ว Dashlane เป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุด มันทำงานได้ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ เต็มไปด้วยฟีเจอร์พิเศษที่มีประโยชน์มากมาย แอปมือถือนั้นใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยมและคุ้มค่ามากกว่าเครื่องมือจัดการรหัสผ่านอื่น ๆ Dashlane นำเสนอให้ทดลองใช้งานฟรี 30 วันและแผนบริการทั้งหมดมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันโดยปราศจากความเสี่ยง
คำถามที่พบบ่อย
Dashlane ปลอดภัยหรือเปล่า
Dashlane เป็นหนึ่งในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ปลอดภัยที่สุด ใช้การเข้ารหัส 256-bit AES แบบ end-to-end มีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลมีการยืนนันตัวตนสองขั้นตอน (2FA) และมีฟีเจอร์พิเศษด้านความปลอดภัยเช่น การตรวจสอบความสมบูรณ์ของรหัสผ่าน การตรวจสอบดาร์กเว็บแบบเรียลไทม์ การแบ่งปันรหัสผ่านที่ปลอดภัย การเข้าถึงฉุกเฉินและอื่น ๆ อีกมากมาย
Dashlane ยังเป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านเดียวที่นำเสนอ VPN ที่เข้ารหัสการรับส่งข้อมูลของคุณและรับรองว่ากิจกรรมการใช้งานของคุณเป็นส่วนตัว VPN ของ Dashlane ยังใช้การเข้ารหัส AES 256-bit มีนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานและมาพร้อมกับ Kill switch แม้ว่า kill switch จะไม่สามารถใช้ได้กับอุปกรณ์ Mac และ iOS ในปัจจุบันนี้
Dashlane มีเวอร์ชั่นฟรีหรือเปล่า
มีแอพพลิเคชั่นฟรี ของ Dashlane อย่างไรก็ตามชุดฟีเจอร์นี้มีข้อจำกัดเมื่อเทียบกับ Dashlane Premium Dashlane Free นั้นใช้งานได้ค่อนข้างดีในแง่ของฟีเจอร์ที่นำเสนอ ่ซึ่งรวมถึงเครื่องมือสร้างรหัสผ่าน เครื่องมือเปลียนรหัสผ่านและการแบ่งปันรหัสผ่านกับผู้ใช้ได้มากถึง 5 บัญชี อย่างไรก็ตาม Dashlane Free จำกัดบริการไว้บนอุปกรณ์หนึ่งเครื่องและคุณจะเก็บรหัสผ่านได้เพียง 50 รหัสเท่านั้น นอกจากนี้คุณจะไม่สามารถเข้าถึง VPN หรือการตรวจสอบดาร์กเว็บแบบเรียลไทม์ได้
แต่ถ้าคุณต้องการใช้เงินเพื่อรักษารหัสผ่านทั้งหมดของคุณให้ปลอดภัย Dashlane Premium เป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมและมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงิน 30 วันโดยปราศจากความเสี่ยง
Dashlane ให้บริการบนเว็บหรอ
ใช่ Dashlane เป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านบนเว็บ บริการเคยให้บริการแบบแอปเดสก์ท็อป แต่ตอนนี้เลิกให้บริการแล้ว เนื่องจากเปลี่ยนไปให้บริการแบบเว็บแอปแทน
เพียงแค่ติดตั้งส่วนขยายเบราว์เซอร์และสร้างบัญชี จากนั้นคุณจะสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ของ Dashlane ได้ทั้งหมดผ่านเว็บแอปและส่วนขยายเบราว์เซอร์
Dashlane ยังมีแอปมือถือที่ยอดเยี่ยมที่ซิงค์ได้อย่างสมบูรณ์แบบกับเว็บแอปและยังสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ทั้งหมดของ Dashlane ได้อีกด้วย
รหัสผ่านของฉันถูกเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของ Dashlane หรือเปล่า
ใช่ แต่จะถูกเข้ารหัสด้วยระดับ AES 256-bit ก่อนถึงเซิร์ฟเวอร์ของ Dashlane ข้อมูลทั้งหมดในที่เก็บข้อมูลของคุณจะถูกเข้ารหัสในอุปกรณ์ของคุณก่อนที่จะถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Dashlane และวิธีเดียวที่จะถอดรหัสข้อมูลนั้นก็คือ การใช้รหัสผ่านหลักของคุณ ซึ่งจะถูกเก็บไว้ในอุปกรณ์ของคุณด้วยเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าหาก Dashlane ถูกละเมิด ข้อมูลของคุณจะปลอดภัยอย่างสมบูรณ์
และบริการยังใช้ระบบที่ไม่จัดเก็บข้อมูลใด ๆ พนักงานของ Dashlane ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณได้ แม้แต่ในกรณีฉุกเฉินหรือเมื่อคุณลืมรหัสผ่าน แต่ Dashlane นำเสนอตัวเลือกการกู้คืนบัญชีเดียว — คุณสามารถเข้าถึงที่เก็บรหัสผ่านของคุณได้อีกครั้งในกรณีที่รหัสผ่านหลักสูญหาย หากคุณเปิดใช้งานการเข้าสู่ระบบไบโอเมตริกซ์บนอุปกรณ์มือถือของคุณ (ต้องเปิดใช้งานตัวเลือกการรีเซ็ตรหัสผ่านหลักด้วย) Dashlane นำเสนอการเข้าถึงกรณีฉุกเฉิน ดังนั้นคุณสามารถตั้งค่าผู้ติดต่อฉุกเฉินที่สามารถดึงข้อมูลของคุณได้หากต้องการ