ระบบปฏิบัติการ iOS ของ Apple ได้รับการออกแบบมาให้เป็นระบบนิเวศปิดเพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสประสบการณ์ที่เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มันตรงข้ามกับ Android ของ Google ซึ่งให้ความสำคัญกับการทดลองและโครงการโอเพ่นซอรส์มากกว่า
อย่างไรก็ตามนั่นไม่ได้หมายความว่า iOS จะติดไวรัสไม่ได้ มันมีความเป็นไปได้สูงสำหรับโทรศัพท์เหล่านี้ที่จะติดมัลแวร์และไวรัสอื่นๆ เพราะการท่องเว็บไซต์หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่เป็นอันตราย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงต้องมีซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสติดตั้งไว้เพื่อป้องกันตัวคุณเอง
เพื่อช่วยคุณค้นหาโปรแกรมที่ใช่ เราได้ทดสอบซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสสำหรับ iOS มากกว่า 40 โปรแกรมเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะปลอดภัย
รายการด้านล่างนี้เป็นรายละเอียดของสีที่เรามองหาในขณะที่ทดสอบทุกอย่าง
- McAfee – มี Social Media Guard ที่ดีที่สุด
- Panda – สแกนเนอร์ USB ดีที่สุด
- Norton – ทีมช่วยเหลือคุณภาพที่ดีที่สุด
- Webroot – วิธีการที่รวดเร็วที่ดีที่สุด
- MalwareBytes – การปรับแต่งดีที่สุด
- AVG – การป้องกันอีเมลดีที่สุด
- TotalAV – เป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากที่สุด
- Bitdefender – ฟีเจอร์ SafePay ดีที่สุด
- Trend Micro – ฟีเจอร์ FolderShield ดีที่สุด
- MobiShield – ฟีเจอร์ตู้นิรภัยที่เลือกได้ดีที่สุด
แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับฟีเจอร์ iOS ที่ควรมองหา
ในขณะที่ท่องเว็บเพื่อค้นหาแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ iOS ของคุณ คุณต้องตรวจสอบสิ่งที่มีมาให้บางอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับซอฟต์แวร์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ขอย้ำอีกครั้งว่าแค่เพียงเพราะ iOS เป็นระบบนิเวศปิดมากกว่า นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ต้องเผชิญหน้ากับโจรขโมยข้อมูล
ในความเป็นจริงแล้วหากคุณไม่ได้ป้องกันตัวคุณเองด้วยแอนตี้ไวรัส คุณกำลังปล่อยให้ข้อมูลของคุณมีความเสี่ยงอย่างมาก มันสำคัญที่คุณจะต้องติดตั้งบางสิ่งให้เร็วที่สุดเพื่อที่มันจะได้ดูแลข้อมูลความลับของคุณและดูแลให้อุปกรณ์ iOS ของคุณทำงานอย่างราบรื่น
นี่คือทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส iOS
ความปลอดภัย
การป้องกันมัลแวร์และแรนซัมแวร์เป็นสองสิ่งที่สำคัญที่สุดในการพิจารณาเมื่อค้นหาซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสสำหรับ iOS คุณต้องการซอฟต์แวร์ที่อัพเดทอยู่เป็นประจำและใช้ฐานข้อมูลการโจมตีล่าสุด มิเช่นนั้นข้อมูลของคุณจะมีความเสี่ยงที่จะถูกขโมยและทำให้อุปกรณ์ของคุณถูกล็อกโดยที่คุณทำอะไรไม่ได้เลย
ในความเป็นจริงแล้วนี่เป็นเหตุผลเล็กน้อยเท่านั้นว่าทำไมคุณถึงต้องติดตั้งแอนตี้ไวรัส โชคดีที่เราได้รวบรวมรายการแอนตี้ไวรัสที่แข็งแกร่งมาให้คุณแล้วที่นี่
เมื่อตรวจสอบแอนตี้ไวรัสสำหรับ iOS เราได้คำนึงถึงสิ่งเหล่านี้
ฟีเจอร์ความปลอดภัยหลักที่เราตรวจสอบเสมอ:
- สแกนไวรัสทันทีที่จะป้องกันอุปกรณ์ของคุณแบบเรียลไทม์
- การตรวจจับพฤติกรรมที่น่าสงสัยเมื่อมันเกิดขึ้น
- รายการเว็บไซต์ที่อนุญาตเพื่อความง่ายในการเข้าถึง
- แซนด์บ็อกซ์เพื่อทดสอบรายการที่ดาวน์โหลดในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
- การป้องกันจากสปายแวร์
- การป้องกันฟิชชิ่ง
- VPN ภายใน (เครือข่ายส่วนตัวเสมือน)
- เครื่องมือทำความสะอาดอุปกรณ์และเพิ่มความเร็วให้กับอุปกรณ์ iOS
- การป้องกันแรนซัมแวร์
- ไฟวอลสำหรับการป้องกันการท่องเว็บอย่างรวดเร็ว
- การตรวจสอบ Wi-Fi
- การป้องกันจากคีย์ล็อกเกอร์
ในขณะที่การป้องกันไวรัสและอันตรายอื่นๆ เป็นฟีเจอร์ที่สำคัญที่สุดของแอนตี้ไวรัสสำหรับ iOS แต่หลายๆ โปรแกรมก็มาพร้อมกับส่วนเสริมที่ทำให้ซอฟต์แวร์ดียิ่งขึ้น นี่เป็นรูปแบบการแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดเพราะโปรแกรมที่ใช่ที่มีฟีเจอร์เสริมที่ดีคือตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับเวลาและเงินของคุณ
เพื่อช่วยเหลือคุณ เราได้ตรวจสอบซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสสำหรับ iOS มากกว่า 40 โปรแกรมเพื่อค้นหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคุณ ในการค้นคว้าของเรา ในการค้นหาของเรา เรามองหา
- ฟีเจอร์ความปลอดภัย: แน่นอน แอนตี้ไวรัสสามารถบอกได้ว่ามันจะปกป้องคุณ แต่ในความจริงแล้วมันทำได้อย่างที่กล่าวอ้างหรือเปล่า? มีรูปแบบการป้องกันมากมายตั้งแต่การป้องกันมัลแวร์ไปจนถึงแรนซัมแวร์และอื่นๆ อีกมากมาย ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสบางส่วนให้บริการบางสิ่งในขณะที่คู่แข่งไม่มี
- ความน่าเชื่อถือและความแม่นยำ: ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสตรวจจับการโจมตีได้ดีแค่ไหน? มันมาพร้อมกับผลบวกผิดพลาดนับพันหรือเปล่า? หรือโปรแกรมตรวจจับได้เฉพาะสิ่งที่เป็นอันตรายต่อ iOS ของคุณเท่านั้น?
อันดับ 1 – McAfee – มี Social Media Guard ที่ดีที่สุด
- เนื่องจากเปิดให้บริการมายาวนาน McAfee มีประสบการณ์เกี่ยวกับมัลแวร์รูปแบบต่างๆ ทั้งหมด
- Social Media Guard ดีสำหรับอุปกรณ์มือถือ
- ดีทั้งการป้องกันบนอุปกรณ์และเว็บไซต์
- แผนให้บริการราคาแพงไม่ใช่เรื่องสนุกสำหรับทุกคน
- ฟีเจอร์หลายอุปกรณ์มีราคาแพง
McAfee เปิดให้บริการมายาวนานกว่าซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสอื่นๆ ในตลาด นี่หมายความว่ามันได้เห็นมัลแวร์และไวรัสทุกรูปแบบและรู้วิธีที่จะป้องกันมัน ฐานข้อมูลของแพลตฟอร์มมีภัยคุกคามต่างๆ ทุกรูปแบบเก็บไว้มานานหลายปีซึ่งทำให้มันเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการป้องกันอุปกรณ์ iOS ของคุณ
ด้วยฐานข้อมูลนี้ ซอฟต์จะตรวจสอบอุปกรณ์ของคุณเพื่อมองหาสิ่งที่แอบซ่อนเร้นอย่างสม่ำเสมอ มันยังจับคู่กับบางสิ่งที่เรียกว่าสแกนเนอร์ความปลอดภัยซึ่งจะคอยจับตาดูอุปกรณ์มือถือของคุณและสแกนเพื่อมองหาการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้รับอนุญาต เช่น แอปเคลื่อนไหวด้วยตัวเองหรือเปิดใช้งานตัวเองโดยที่คุณไม่ได้ดำเนินการ
ในขณะที่ McAfee มีการป้องกันมัลแวร์บนอุปกรณ์ที่น่าทึ่ง มันยังป้องกันเว็บไซต์ได้อีกด้วย นี่ไม่ใช่บางสิ่งที่ทุกซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสมีให้บริการ ส่วนหนึ่งของการป้องกันเว็บไซต์คือ Social Media Guard ของแพลตฟอร์มซึ่งจะป้องกันคุณจากลิงก์สแปมหรือบัญชีหลอกที่คุณอาจเผชิญ – มันเป็นประโยชน์อย่างยิ่งโดยเฉพาะบนมือถือที่คุณต้องใช้งานโซเชียลมีเดียตลอดเวลา
หน้าแดชบอร์ด McAfee ยังให้สิทธิ์การเข้าถึง Social Media Guard และฟีเจอร์อื่นๆ เช่นการควบคุมไฟวอลอีกด้วย พื้นที่นี้ใช้งานง่ายมากๆ ทำให้ขั้นตอนการดำเนินการเป็นไปอย่างง่ายดายสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในแอนตี้ไวรัสมากนัก
อย่างไรก็ตามฟีเจอร์มีราคาแพง แม้ว่ามันจะคุ้มค่าสำหรับใครก็ตามที่มีงบ แต่แผนให้บริการของแพลตฟอร์มนี้ก็ยังคงมีราคาสูงอยู่เล็กน้อย เช่น คุณอาจต้องการการรองรับหลายอุปกรณ์ แต่คุณไม่มีงยสำหรับแผนให้บริการระดับสูง คุณเลยต้องมองหาตัวเลือกอื่นแทน อย่างที่กล่าวข้างต้นสำหรับผู้ที่มีงบ ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส McAfee สำหรับ iOS เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม
อันดับ 2 – Panda – สแกนเนอร์ USB ดีที่สุด
- VPN ฟรีเป็นฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยม
- สแกนเนอร์ USB scanner เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่มีการใช้งานหนัก
- การป้องกันมัลแวร์น่าทึ่ง
- มีผลบวกผิดพลาดเกิดขึ้นบ่อย
- แผนให้บริการระดับสูงเสนอฟีเจอร์เสริมที่จำกัด
- VPN ฟรีมีจำกัด ทำให้รู้สึกเหมือนกับใช้ได้ไม่เต็มที่นัก
Panda เป็นแอนตี้ไวรัสที่โดดเด่นสำหรับ iOS มันมีเครือข่ายส่วนตัวเสมือน (VPN) มาให้ในแผนให้บริการฟรี มันค่อนข้างเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการท่องเว็บอย่างเป็นส่วนตัวในระยะเวลาสั้นๆ เพราะมันจำกัดเพียง 150mb ต่อวันซึ่งไม่มากนักสำหรับผู้ใช้ที่มีการใช้งานหนัก แต่ถึงอย่างนั้นแอปพลิเคชันนี้ก็น่าทึ่งที่มีฟีเจอร์ดังกล่าวนี้มาให้
นอกจากนี้คุณจะต้องชอบ Panda ในเรื่องการป้องกันมัลแวร์ Panda เป้นตัวเลือกที่ดีในการตรวจสอบไฟล์ของคุณและค้นหาสิ่งที่อาจเป็นอันตราย แม้ว่าบางครั้งแอปพลิเคชันจะชอบทำเครื่องหมายสิ่งที่ไม่ใช่มัลแวร์อยู่บ่อยครั้งก็ตาม เราเรียกสิ่งนี้ว่าผลบวกผิดพลาดและ Panda ตกเป็นเหยื่อในเรื่องนี้มากกว่าที่เรารับได้
สิ่งที่น่าสนใจคือฟีเจอร์สแกนเนอร์ USB ซึ่งจะตรวจสอบอุปกรณ์ USB ใดๆ ที่เชื่อมต่อกับมือถือของคุณเพื่อมองหาอันตราย แม้ว่าคุณอาจจะไม่ได้ทำสิ่งนี้บ่อยนัก แต่ฟีเจอร์นี้ก็เป็นประโยชน์มากๆ สำหรับผู้ที่เชื่อมต่อโทรศัพท์ของพวกเขากับสิ่งเหล่านี้
ไฟวอลของ Panda ยังป้องกันการโจมตีต่างๆ มากมายเช่นกัน แอปนี้ให้คุณปรับแต่งวิธีการทำงานของมันได้ทุกรูปแบบ มันยังเปิดใช้งานอยู่เสมอเพื่อทำให้แน่ใจว่าประสบการณ์การท่องเว็บของคุณนั้นปลอดภัยอยู่ตลอด! อย่างที่กล่าว ฟีเจอร์เหล่านี้เป็นฟีเจอร์ที่ดีและมีมากมายรวมอยู่ในแผนให้บริการพื้นฐานของ Panda อย่างไรก็ตามการอัพเกรดจะไม่เพิ่มความคุ้มค่าให้คุณเท่าไหร่นัก ดังนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณโอเคกับสิ่งที่จะได้รับก่อนตัดสินใจซื้อ
อันดับ 3 – Norton – ทีมช่วยเหลือคุณภาพที่ดีที่สุด
- ฟีเจอร์ที่น่าทึ่งอย่าง SONAR และการป้องกันการหาผลประโยชน์เชิงรุก
- ทีมช่วยเหลือคุณภาพสามารถช่วยคุณได้ทุกสิ่งที่คุณต้องการ
- การป้องกันซีโร่เดย์เป็นบางสิ่งที่คุณต้องการมากๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ของคุณ
- มีการรองรับหลายอุปกรณ์เฉพาะในแผนให้บริการระดับสูงเท่านั้น
- หากคุณไม่ได้ติดตั้งฟีเจอร์เฉพาะ แอปจะรบกวนให้คุณติดตั้งเสมอ
- คุณต้องอัพเกรดเพื่อให้ได้เกือบทุกสิ่งของแอปนี้
Norton และ McAfee บ่อยครั้งถูกนำมาเปรียบเทียบกันเนื่องจากฐานข้อมูลมัลแวร์ต่างๆ ที่กว้างขวาง ประสบการณ์ดังกล่าวนั้นแสดงให้เห็ถึงว่า Norton รู้วิธีที่จะดูแลลูกค้าของพวกเขาเมื่อมีปัญหาซึ่งจะดำเนินการผ่านทีมช่วยเหลือ
จุดเด่นของทีมช่วยเหลือของพวกเขาคือฟีเจอร์ SONAR ของ Norton นี่เป็นส่วนที่ยอดเยี่ยมที่จะสแกนอุปกรณ์ของคุณเพื่อมองหามัลแวร์อยู่เสมอ น่าสนใจที่ฟีเจอร์เหล่านี้จะทำให้แน่ใจโดยการแจ้งเตือนคุณหากคุณไม่ได้ใช้งานมัน นั่นเป็นเรื่องดีที่สำหรับความปลอดภัย แต่หากคุณไม่ต้องการสิ่งนี้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม มันอาจสร้างความรำคาญให้กับคุณได้
นอกจากนี้ยังมีบางสิ่งที่เรียกว่า การป้องกันการหาผลประโยชน์เชิงรุก (PEP) ซึ่งจะป้องกันอุปกรณ์ของคุณจากไวรัสใหม่หรือที่รู้จักในชื่อการโจมตีซีโร่เดย์ ฟีเจอร์นี้เหมาะสำหรับผู้ใดก็ตามที่ท่องเว็บไซต์ในพื้นที่เสี่ยงอันตรายที่การโจมตีใหม่อาจเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง
ผสานรวมกับ Virus Removal Assurance ของ Norton ซึ่งจะรับประกับว่าคุณจะได้รับเงินคืนเต็มจำนวนหากคุณติดไวรัสในขณะที่เปิดใช้งาน Norton บนอุปกรณ์ iOS ของคุณ
อย่างที่กล่าว แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยม แต่แผนให้บริการพื้นฐานของ Norton นั้นก็ไม่มีอะไรมากนัก นอกจากนี้คุณยังต้องอัพเกรดเพื่อให้ได้ใช้ฟีเจอร์ส่วนใหญ่ของซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส ยิ่งไปกว่านั้น Norton ยังคอยแจ้งเตือนคุณเสมอหากคุณไม่ได้เปิดใช้งานฟีเจอร์บางอย่างไว้ นั่นอาจเป็นเรื่องน่ารำคาญหากคุณต้องการปิดมันไว้ด้วยเหตุผลบางอย่าง สุดท้ายหากคุณต้องการการรองรับหลายอุปกรณ์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณอัพเกรดเป็นแผนให้บริการที่สูงกว่าเพื่อให้ใช้งานได้
อันดับ 4 – Webroot – วิธีการที่รวดเร็วที่ดีที่สุด
- วิธีการที่รวดเร็วที่ดีสำหรับผู้ใช้มือใหม่
- การป้องกันมัลแวร์คุณภาพ
- การรับประกันเงินคืนช่วยลดความเสี่ยง
- อธิบายบริการได้ไม่ค่อยดีนัก
- พลาดมัลแวร์บางอย่างไปในบางครั้ง
- ขาดฟีเจอร์บางอย่างซึ่งไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้ขั้นสูง
หากคุณไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสสำหรับ iOS Webroot เป็นแอปที่ดี แม้ว่ามันจะไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่มีประสบการณ์ Webroot ไม่มีฟีเจอร์ขั้นสูงซึ่งทำให้เรียนรู้ได้ง่ายและมันมีระบบการป้องกันที่มีคุณภาพเช่นกัน
น่าสนใจฟีเจอร์การป้องกันของแอปพลิเคชันเป็นคลาวด์ แม้ว่าเราจะไม่ค่อยแน่ใจว่ามันหมายความว่าอย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพราะ Webroot ตัดสินใจที่จะเก็บข้อมูลด้านเทคโนลียีเอาไว้เป็นความลับซึ่งอาจซับซ้อนเล็กน้อย นอกจากนี้มันยังยากที่จะบอกด้วยว่าแอปนี้มีประสิทธิภาพมากแค่ไหน แม้ว่ามันจะปิดกั้นการโจมตีมัลแวร์ต่างๆ ได้ แต่ Webroot ก็ไม่ทำเครื่องหมายมัลแวร์เหล่านั้นอยู่เสมอ การโจมตีบางอย่างผ่านระบบการป้องกันได้ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี
สิ่งที่เรารู้คือพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ของ Webroot และการป้องกันตัวตนนั้นยอดเยี่ยม ด้วยเหตุผลนี้ หากคุณไม่ใช่แฟนตัวยงของบริการนี้ คุณก็สามารถใช้การรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 70 วันของ Webroot ได้เพื่อลดความเสี่ยง
อันดับ 5 – MalwareBytes – การปรับแต่งดีที่สุด
- สแกนรวดเร็วและแสดงให้คุณเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
- การป้องกันซีโร่เดย์น่าเชื่อถือมากๆ
- มีฟีเจอร์ที่สามารถปรับแต่งได้
- มันไม่พบมัลแวร์ทั้งหมด
- ไม่สามารถใช้อ้างอิงเพื่อกำหนดมาตรฐานอุปกรณ์ของคุณได้อย่างถูกต้อง
MalwareBytes เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะบางสิ่งที่เรียกว่าการป้องกันแบบเรียลไทม์ซึ่งหมายความว่าแอนตี้ไวรัสจะดูแลอุปกรณ์ iOS ของคุณเสมอและทำให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้น นี่เป็นตัวเลือกที่สำหรับการป้องกันมัลแวร์ทั้งแบบทั่วไปและมัลแวร์ใหม่ที่เรียกว่าการโจมตีซีโร่เดย์
นอกจากนี้แอปแอนตี้ไวรัสยังให้คุณเลือกว่าคุณต้องการป้องกันอะไรผ่านหน้าจอปรับแต่ง ด้วยวิธีนี้ แอปที่คุณต้องการสแกนเท่านั้นที่จะถูกสแกน เช่น ซอฟต์แวร์ท่องเว็บไซต์หรือที่ที่คุณใช้เปิดเว็บ จับคู่กับการป้องกันที่แนะนำของ MalwareBytes ซึ่งดีสำหรับผู้ใช้มือใหม่ที่ไม่ค่อยแน่ใจว่าแอปใดที่ทำหน้าที่ในการสแกนได้ดีที่สุด
MalwareBytes สแกนรวดเร็วและให้คุณดูว่ามันทำอะไรไปบ้างผ่านแดชบอร์ดภายในแอป และเมื่อดำเนินการทุกขั้นตอนเสร็จสิ้นแล้ว ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสจะแสดงรายงานการวินิจฉัยที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับทุกสิ่งที่มันพบมาให้คุณด้วย
แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นเหตุผลที่ดีในการใช้ MalwareBytes แต่โปรดทราบว่าบางครั้งมันก็พลาดมัลแวร์ทั่วไปในบางครั้ง แม้ว่ากลยุทธ์การป้องกันซีโร่เดย์ของพวกเขาจะน่าทึ่งก็ตาม นอกจากนี้มันยังไม่ดีสำหรับการเปรียบเทียบมาตรฐานอุปกรณ์ iOS ของคุณด้วย โปรดพิจารณาสิ่งเหล่านี้เมื่อคุณพิจารณาแอนตี้ไวรัสนี้
อันดับ 6 – AVG – การป้องกันอีเมลดีที่สุด
- การป้องกันเว็บไซต์ มัลแวร์และแรนซัมแวร์ยอดเยี่ยม
- Turbo Scan ดูแลให้อุปกรณ์ทำงานอย่างรวดเร็วในขณะสแกน
- การป้องกันอีเมลเป็นบางสิ่งที่คุณต้องการ
- ตัวเลือกเกินไปนำไปสู่อินเตอร์เฟซที่ซับซ้อน
- ไม่มีตัวเลือกมากนักในแผนให้บริการพื้นฐาน
AVG ผสมผสานสามผลิตภัณฑ์รวมกันในหนึ่งเดียวที่จะพัฒนาความปลอดภัย ประสิทธิภาพและความเป็นส่วนตัวของอุปกรณ์ iOS ของคุณ เมื่อทดสอบ ผู้เชี่ยวชาญพบว่า AVG ยอดเยี่ยมในเรื่องการป้องกันมัลแวร์รูปแบบต่างๆ และซีโร่เดย์ที่พวกเขาสร้างขึ้นเพื่อทดสอบ
นอกจากการป้องกันมัลแวร์แล้วยังมีการป้องกันแรนซัมแวร์ของ AVG สิ่งนี้มาพร้อมกับไฟวอลของแอปพลิเคชันซึ่งให้คุณย้ายกับไฟล์สำคัญไปยังโฟลเดอร์ที่เข้ารหัสได้ด้วยตัวเอง
การร่วมกันของการป้องกันมัลแวร์และแรนซัมแวร์ที่ยอดเยี่ยมคือการป้องกันเว็บไซต์ของ AVG ไม่เพียงแต่ดูแลให้คุณปลอดภัยจากการโจมตีในขณะท่องเว็บไซต์เท่านั้น แต่แอปพลิเคชันนี้ยังมีระบบป้องกันอีเมลมาให้ด้วย สิ่งนี่ทำให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ได้รับลิงก์สแปมใดๆ ที่ส่งมาถึงคุณในขณะเดียวกันนั้นก็จะสแกนทุกอีเมลเพื่อมองหาปัญหาอื่นๆ ไปด้วย
การป้องกันเหล่านี้ดีมากเพราะ AVG ทำงานและตรวจสอบอุปกรณ์ iOS ของคุณอย่างสม่ำเสมอ เหมือนกับคู่แข่งบางราย แอปพลิเคชันจะทำให้แน่ใจว่าตรวจสอบพฤติกรรมที่น่าสงสัยต่างๆ เช่น การเคลื่อนย้ายไฟล์ด้วยตัวเอง มันยังมีบางสิ่งที่เรียกว่า “Turbo Scan” ซึ่งเปิดทำงานหลังการสแกนครั้งแรกเสร็จสิ้น หลังจากการสแกนครั้งแรก การสแกนดังกล่าวจะข้ามไฟล์ที่รู้ว่าปลอดภัยอยู่แล้วซึ่งจะเพิ่มความเร็วให้อย่างมาก
ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่กล่าวมาทั้งหมดนี้มาพร้อมกับราคาที่แพงเล็กน้อย อินเตอร์เฟซผู้ใช้งานอาจดูวุ่นวายเพราะตัวเลือกจำนวนมากและแผนให้บริการพื้นฐานก็ไม่มีการรองรับที่ดีนัก แต่ฟีเจอร์เหล่านี้ไม่ทำให้อุปกรณ์ iOS ของคุณช้าลงเพราะทีมงานได้ทำให้แน่ใจว่าแอปพลิเคชันของพวกเขาทำงานได้ดีในระบบปฏิบัติการทั่วไป
อันดับ 7 – TotalAV – เป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากที่สุด
- สามารถเทียบเท่ากับแอนตี้ไวรัสที่เปิดให้บริการมายาวนานได้ แม้ว่าจะเป็นแบรนด์ใหม่ก็ตาม
- แอปพลิเคชันเป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากๆ
- ไฟวอลจากระยะไกลดีสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ได้เก็บโทรศัพท์เอาไว้กับตัว
- การป้องกันเว็บไซต์ค่อนข้างอ่อนแอเมื่อเทียบกับแอปพลิเคชันอื่น
- บริการลูกค้าไม่ตอบกลับในเวลาที่เหมาะสม
- ลูกค้าบางส่วนมีปัญหาในการจ่ายเงินซื้อแอนตี้ไวรัส
คุณคงได้เห็นว่า TotalAV สามารถเทียบเท่ากับแอนตี้ไวรัสชั้นนำต่างๆ ได้เพราะการป้องกันมัลแวร์คุณภาพ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นแอนตี้ไวรัสใหม่ก็ตาม ใช่แล้วซอฟต์แวร์นี้สามารถเทียบเท่า McAfee, Norton และซอฟต์แวร์ที่เปิดให้บริการมายาวนานที่มีฐานข้อมูลมัลแวร์ที่กว้างขวางได้
นอกจากนี้แอปพลิเคชันยังเป็นมิตรต่อผู้ใช้มากๆ อีกด้วย หนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือไฟวอลที่ควบคุมได้จากระยะไกลซึ่งหมายความว่าคุณสามารถควบคุมการป้องกัน iOS ของคุณได้จากคอมพิวเตอร์หากคุณอยู่ห่างจากโทรศัพท์ของคุณ
นอกจากนี้การป้องกันมัลแวร์ที่แสนน่าทึ่งนี้ยังมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายในการป้องกันเว็บไซต์ที่ไม่เวิร์กของ TotalAV อย่าหลงเชื่อฟีเจอร์เฉพาะ “Web Shield” ของแอปพลิเคชันนี้ มันพลาดมัลแวร์บางอย่างไปและอาจทำให้คุณติดไวรัสได้
TotalAV ยังบกพร่องในเรื่องบริการลูกค้า ด้วยทีมงานที่ใช้เวลาสักพักในการตอบกลับ ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหน้าคำถามที่พบบ่อยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบได้ในกรณีฉุกเฉิน นี่ไม่ได้ช่วยในความจริงที่ว่าลูกค้าบางส่วนมีปัญหาในการจ่ายเงินซื้อแผนให้บริการของพวกเขา
อันดับ 8 – Bitdefender – ฟีเจอร์ SafePay ดีที่สุด
- SafePay เป็นฟีเจอร์ความปลอดภัยที่น่าทึ่ง
- การสแกนไม่ส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ของคุณและมีประสิทธิภาพ
- การตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอซึ่งหมายความว่าคุณจะปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา
- เลย์เอาท์อินเตอร์เฟซผู้ใช้งานไม่ดีนัก
- แอปพลิเคชันทำให้หน้าจอของคุณวุ่นวาย
- ความปลอดภัย SafePay ไม่ขยายรวมถึงข้อมูลทางการเงินในอดีต
BitDefender ยังขาดฟีเจอร์ไปบางอย่าง แต่สิ่งที่มีมาให้นั้นก็ทำงานได้อย่างดี เช่น มันสแกนได้ดีมากๆ และเร็วมากๆ โดยไม่ทำให้อุปกรณ์ iOS ของคุณทำงานช้าลง นอกจากนี้ทันทีหลังจากติดตั้ง แอนตี้ไวรัสจะตรวจสอบอุปกรณ์ของคุณและทำให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยที่คุณไม่ได้ดำเนินการ
การป้องกันนี้ขยายรวมไปถึงอุปกรณ์ USB ใดๆ ที่คุณอาจเสียบเข้ากับโทรศัพท์ของคุณ BitDefender จะใช้เวลาในสแกนสิ่งเหล่านี้และทำให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรจากข้างนอกทำให้อุปกรณ์ของคุณติดไวรัสได้ แอนตี้ไวรัสยังมอบการป้องกันการชำระเงินคุณภาพที่เรียกว่า SafePay อีกด้วย ฟีเจอร์นี้จะดูแลข้อมูลการชำระเงินของคุณให้เป็นส่วนตัวเมื่อคุณซื้อบางสิ่งออนไลน์หรือกรอกข้อมูลทางการเงินที่เป็นความลับ
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่น่าทึ่งนี้ แต่ BitDefender ยังบกพร่องในเรื่องการป้องกันเว็บ นอกจากนี้อินเตอร์เฟซผู้ใช้งานยังอาจดูซับซ้อนมากๆ ทั้งสำหรับผู้ใช้มือใหม่และผู้ที่มีประสบการณ์ทางด้านแอนตี้ไวรัส บางฟีเจอร์มีทางลัดบนหน้าจอหลักด้วยซึ่งอาจทำให้อุปกรณ์ของคุณดูรก แต่หากคุณสามารถเมินเฉยต่อปัญหาเล็กๆ เหล่านี้ได้ BitDefender จะเป็นเครื่องมือป้องกันมัลแวร์ที่ดีสำหรับคุณ
อันดับ 9 – Trend Micro – ฟีเจอร์ FolderShield ดีที่สุด
- FolderShield ให้คุณป้องกันไฟล์เฉพาะเจาะจง
- สแกนตามวิทยาการการสำนึกยอดเยี่ยมในการป้องกันภัยคุกคามที่ซ่อนเร้น
- การป้องกันโซเชียลมีเดียที่ดีสำหรับเด็กๆ
- ทีมงานรวบรวมข้อมูลของคุณมากมายและยากที่จะปิดมัน
- แผนให้บริการที่มีราคาถูกกว่าไม่มีความช่วยเหลือที่ดี
Trend Micro มีฟีเจอร์ที่โดดเด่นอยู่บ้างซึ่งช่วยทำให้มันแตกต่างจากแอนตี้ไวรัสส่วนหนึ่ง เช่น การสแกนตามวิทยาการการสำนึกและ FolderShield อย่างแรกนี้จะไม่ตรวจสอบไฟล์เฉพาะเจาะจงของคุณ แต่จะเฝ้าระวังแอปพลิเคชันที่ซ่อนเร้นใดๆ ก็ตามที่อาจเป็นมัลแวร์ อย่างหลังจะให้คุณเลือกโฟลเดอร์บนอุปกรณ์ iOS ของคุณที่ Trend Micro จะป้องกัน
การป้องกันโซเชียลมีเดียของแอนตี้ไวรัสยังทำงานได้ดีเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีเด็กที่ใช้งานอุปกรณ์ การปัองกันภายในจะทำให้แน่ใจว่าคุณไม่แชร์อะไรลงโซเชียลมีเดียโดยบังเอิญและให้ตัวเลือกความปลอดภัยมากมานในการป้องกันข้อมูลรั่วไหล
อย่างไรก็ตามหนึ่งในสิ่งที่คุณควรทราบคือ Trend Micro เก็บรวบรวมข้อมูลของคุณจำนวนมาก แน่นอนว่าคุณสามารถปิดมันได้ แต่มันค่อนข้างยากที่จะทำเช่นนั้น โชคไม่ดีนักที่แอปพลิเคชันไม่มีความช่วยเหลือที่ดีสำหรับผู้ใช้ในแผนให้บริการพื้นฐาน ผู้ที่อยู่ในแผนให้บริการที่มีราคาถูกกว่าจะได้รับความช่วยเหลือผ่านทางโทรศัพท์เฉพาะในชั่วโมงทำการเท่านั้น ในขณะที่การสมัครสมาชิกแบบ Premium จะได้รับแบบ 24/7 โชคดีที่ Trend Micro มีหน้าคำถามที่พบบ่อยที่ดีสำหรับผู้ที่อาจต้องการมัน
อันดับ 10 – MobiShield – ฟีเจอร์ตู้นิรภัยที่เลือกได้ดีที่สุด
- ตู้นิรภัยมีความปลอดภัยอย่างน่าเหลือเชื่อและเก็บข้อมูลรูปแบบไฟล์ได้ทั้งหมด
- อินเตอร์เฟซยอดเยี่ยมเหมาะสำหรับมือใหม่
- แถบค้นพบมีเรื่องราวใหม่ๆ ที่น่าสนใจ
- มีฟีเจอร์ที่ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่บ้าง
- บางครั้งแถบค้นพบก็นำเสนอเรื่องราวที่ไม่เกี่ยวข้อง
- ไม่มีฟีเจอร์กมากเท่าไหร่นัก
MobiShield ให้คุณเลือกแอปพลิเคชัน ไฟล์ รูปภาพและอื่นๆ เฉพาะเจาะจงเพื่อนำไปเก็บไว้ในตู้นิรภัย ตู้นิรภัยดังกล่าวจะถูกเข้ารหัสและไม่มีแอปพลิเคชันใดสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้โดยไม่มีรหัสผ่าน นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือสแกนที่จะแจ้งเตือนคุณหากอุปกรณ์มีความเสี่ยง เช่น หากอุปกรณ์ของคุณทำการเจลเบรกหรือหากมีฟีเจอร์ใดๆ ที่ไม่ควรเปิดใช้งาน
อย่างที่กล่าวข้างต้น ฟีเจอร์มากมายเหล่านี้มีให้บริการอยู่แล้วในการตั้งค่าอุปกรณ์ iOS มันไม่ค่อยมีประโยชน์มากนักสำหรับคนที่รู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไร แต่อาจมีประโยชน์สำหรับผู้ใช้งานมือใหม่
ที่น่าสนใจคือแอปพลิเคชันมีแถบ “ค้นพบ” ที่จะนำเสนอเรื่องราวใหม่ๆ เกี่ยวกับ iOS และ Apple แม้ว่าบางครั้งมันจะมีหัวข้อที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยอย่าง Nike ก็ตาม
นอกจากนี้หนึ่งในสิ่งที่คุณควรทราบคือแอปพลิเคชันมีระบบนำทางที่ง่ายอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่นั่นก็เพราะมันไม่มีฟีเจอร์มากนัก มันเป็นแอปพลิเคชันที่คุณต้องเลือกว่าจะป้องกันหรือไม่ป้องกันอะไร
สิ่งอื่นๆ ที่ควรมองหาเมื่อเลือกแอนตี้ไวรัสสำหรับ iOS
ความช่วยเหลือ
ความช่วยเหลือแอนตี้ไวรัสคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญในบางครั้งที่คุณอาจต้องการ หากแอปได้รับการออกแบบมาอย่างดี โดยปกติแล้วคุณจะไม่ต้องการความช่วยเหลือ แต่คุณจะต้องการมันอย่างมากในบางครั้งหากมีปัญหาเกิดขึ้น
แม้ว่าความช่วยเหลือจะไม่ได้มาในรูปแบบการสื่อสารโดยตรง แต่ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสท่ดีจะมีหน้าคำถามที่พบบ่อยโดยเฉพาะหรือฐานข้อมูลความรู้เพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบดูได้ทุกเวลา
ฟีเจอร์ความช่วยเหลือที่เรามุ่งเน้น:
- ความช่วยเหลือผ่านโทรศัพท์ อีเมลและแชทออนไลน์
- พร้อมให้บริการตลอด 24/7
- คำถามที่พบบ่อยออนไลน์และฐานข้อมูลความรู้
ราคา
ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสบางซอฟต์แวร์ให้อะไรคุณมากกว่า แม้ว่านั่นจะไม่ได้หมายถึงข้อเสนอคุณภาพก็ตาม คุณมีเวลาในการตรวจสอบว่าต้องการจะจ่ายเงินเพิ่มเล็กน้อยเพื่อฟีเจอร์คุณภาพหรือเปล่า
อย่างที่กล่าวข้างต้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้จ่ายเงินแพงหูฉี่ ใส่ใจในแผนให้บริการที่มีในแอนตี้ไวรัสที่คุณชอบและพิจารณาว่ามันคุ้มค่ากับเงินของคุณหรือไม่
สิ่งที่เราดูเมื่อพูดถึงช่วงราคา:
- แผนให้บริการและราคาที่แตกต่าง
- มีใบรับรองมาให้กี่ใบ
- ความคุ้มค่าของแพ็กเกจ