
อัพเดท: 1 มิถุนายน 2023

มีเวลาไม่พอใช่ไหม นี่คือบริการ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่:
- 🥇 ExpressVPN (\#1 in 2023) — มีความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม ความเร็วสูงและอินเตอร์เฟสการใช้งานที่ยอดเยี่ยม ExpressVPN นำเสนอนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวดและมีฟีเจอร์สำหรับคนที่ชอบสตรีมและทอร์เรนต์และการซื้อทั้งหมดจะได้รับปกป้องด้วยการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
ในขณะที่ VPN จำนวนมากบอกว่าพวกเขานำเสนอการรักษาความปลอดภัยและความเร็วระดับสูงสุดในราคาถูก แต่บริการเหล่านั้นไม่ปลอดภัยหรือเร็วพอสำหรับกิจกรรมทางอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่
เพื่อช่วยคุณประหยัดเวลา ฉันใช้เวลาหลายเดือนในการทดสอบ 52 บริการ VPN ระดับชั้นนำในตลาด รายการตั้งแต่แบรนด์ที่มีชื่อเสียงไปจนถึงแบรนด์ที่ไม่มีใครรู้จักและแบรนด์อื่น ๆ อีกมากมาย ฉันต้องการค้นหา VPN ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่ใน2023
ฉันเปรียบเทียบ ให้คะแนนและจัดอันดับ VPN แต่ละรายการที่ฉันทดสอบโดยอิงตามตัวชี้วัดที่หลากหลาย และฉันทำการตรวจสอบและการทดสอบอย่างละเอียดเพื่อยืนยันว่าผู้ให้บริการ VPN ชั้นนำในรายการนี้:
- มาจากบริษัทที่ปลอดภัยและมีชื่อเสียง
- ให้ความเร็วที่รวดเร็วสำหรับกิจกรรมออนไลน์ทั้งหมด
- สามารถเข้าถึงเว็บสตรีมมิ่งและรองรับการรับส่งข้อมูลแบบ P2P
- สามารถช่วยให้คุณได้รับอิสรภาพทางอินเทอร์เน็ตในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์อย่างเข้มงวด
- มีแอปที่ใช้งานง่ายสำหรับแพลตฟอร์มส่วนใหญ่
หลังจากทำการทดสอบความเร็ว การทำงาน นโยบายความเป็นส่วนตัวและภาวะวิกฤตมาของบริการ VPN จำนวนมากในตลาดเป็นเวลาหลายเดือน ฉันได้จัดอันดับและเปรียบเทียบบริการ VPN 10 อันดับโดยพิจารณาจากความปลอดภัย ความง่ายในการใช้งาน ฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวและความคุ้มค่าโดยรวม
รายการสรุปย่อของบริการ VPN ที่ดีที่สุดใน2023:
- 1.🥇 ExpressVPN VPN ที่ดีที่สุดใน 2023 โดยรวม — มีความปลอดภัยระดับชั้นนำ ฟีเจอร์ที่ดีที่สุด มีความเร็วสูงสุด
- 2.🥈 PIA VPN VPN ที่หลากหลายที่สุด — ปลอดภัย ยืดหยุ่น ดีสำหรับการสตรีมและทอร์เรนต์
- 3.🥉 ProtonVPN ความปลอดภัยระดับไฮเอนด์ — มีความเป็นส่วนมากที่สุด มีฟีเจอร์มากมาย มีความเร็วที่ดี
- 4. NordVPN — มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ดี & ความเร็วสูงในทุกเซิร์ฟเวอร์
- 5. Surfshark — เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่และมีราคาไม่แพง
- แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ2023อันดับที่ 6-10
- ตารางเปรียบ VPN ที่ดีที่สุดในปี 2023
🥇1. ExpressVPN — VPN ที่ดีที่สุดใน 2023 ความปลอดภัยระดับชั้นนำ มีความเร็วและประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม

ExpressVPN เป็น VPN ที่เร็วที่สุด มีแอปที่ใช้งานง่าย มีแอปพลิเคชั่นให้บริการในภาษาไทยและมาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม การเข้ารหัส AES 256-bit นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่ได้รับการตรวจสอบโดยบริษัทอิสระ Kill switch ที่ทำงานได้อย่างดีเยี่ยม (เป็นหนึ่งในไม่กี่ VPN ที่มี Kill switch นำเสนอในแพลตฟอร์มหลักทั้งหมด) ในแง่ของคุณสมบัติด้านความปลอดภัย บริการมีฟีเจอร์ขั้นสูงอย่างเช่น โปรโตคอล VPN ของตัวเอง เซิร์ฟเวอร์ที่มีความปลอดภัยสูง ฟีเจอร์ Split-tunneling บน Windows, Android, เราเตอร์ และ Mac เครื่องมือบล็อกตัวติดตามและมัลแวร์บน iOS, Mac และ Linux และเครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรี
ExpressVPN ยังมีบริการเข้ารหัส DNS ส่วนตัวของตัวเองซึ่งมอบความปลอดภัยอีกชั้นด้วยการเข้ารหัสคำขอ DNS ที่ทำงานผ่านเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN และเทคโนโลยี TrustedServer ของ ExpressVPN จะจัดเก็บข้อมูลเมตาของเซิร์ฟเวอร์ไว้ในหน่วยความจำ (RAM) ไม่ใช่ในฮาร์ดไดรฟ์ ซึ่งหมายความว่าข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของคุณจะถูกลบออกเมื่อเซิร์ฟเวอร์รีบูตและยังมี Perfect Forward Secrecy ซึ่งจะเปลี่ยนคีย์การเข้ารหัสของคุณหลังจากแต่ละเซสชันเพื่อป้องกันไม่ให้แฮ็กเกอร์สามารถใช้คีย์นี้เพื่อเข้าถึงแซสชั่นในอนาคตหรืออดีตของคุณได้
หากคุณกำลังมองหา VPN เพื่อใช้ในประเทศที่มีข้อจำกัด ExpressVPN เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ไม่ว่าคุณจะอาศัยหรือกำลังเดินทางไปยังประเทศที่มีการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวด บริการสามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์และได้รับเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ตของคุณคืนมาได้ นอกจากนี้ ExpressVPN เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการทอร์เรนต์ การเล่นเกมและการสตรีมอีกด้วย สามารถใช้งานได้กับเว็บสตรีมมิ่งหลัก ๆ ได้ทั้งหมด เช่น Netflix, Hulu และ Disney+ รวมถึงเว็บไซต์ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก เช่น FuboTV, RaiPlay และ Crackle
นอกจากนี้ยังมีโปรโตคอล Lightway ของ ExpressVPN ซึ่ง ExpressVPN บอกว่าโปรโตคอลนี้มีความน่าเชื่อถือ เร็วกว่าและรักษาความปลอดภัยที่ได้มากกว่าโปรโตคอล VPN ชั้นนำอื่น ๆ เช่น OpenVPN และ WireGuard นอกจากนี้ Lightway ยังเป็นโอเพ่นซอร์ส ซึ่งหมายความว่าทุกคนสามารถตรวจสอบข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยได้ (และผ่านการตรวจสอบภายนอกด้วย) ในการทดสอบของฉัน Lightway ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นโปรโตคอล VPN ที่เร็วที่สุดเมื่อเทียบกับโปรโตคอลอื่น ๆ ที่ฉันทดสอบ
ไม่ว่าคุณจะทดลองใช้ VPN เป็นครั้งแรกหรือเป็นผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ คุณจะไม่มีปัญหาในการใช้งานอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายของ ExpressVPN มันใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการติดตั้งในทุกอุปกรณ์ การค้นหาและเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่คุณต้องการ ตลอดจนฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็ทำได้ง่ายและหากคุณพบปัญหาใดๆ ExpressVPN มีตัวเลือกการช่วยเหลือลูกค้าที่ยอดเยี่ยม รวมถึงไลฟ์แชทที่เป็นมิตรและเป็นประโยชน์ อีเมลที่ตอบสนองไว ส่วนคำแนะนำการตั้งค่า การแก้ไขปัญหาและคำถามที่พบบ่อยที่มีข้อมูลละเอียดครบถ้วน
ExpressVPN อนุญาตให้มีการเชื่อมต่อพร้อมกัน 5 อุปกรณ์ ยอมรับวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย (รวมถึง Bitcoin) และมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันโดยปราศจากความเสี่ยง
ทดลองใช้งาน ExpressVPN (ทดลองใช้งานโดยไม่มีความเสี่ยง 30 วัน)
ข้อเท็จจริงด้านความปลอดภัยของ ExpressVPN
- เซิร์ฟเวอร์ในทั่วโลก: 3,000+ (และในภูมิภาคเอเชีย)
- โปรโตคอล: Lightway, IKEv2/IPSec, OpenVPN UDP/TCP, L2TP/IPSec
- การเข้ารหัส: 256-bit AES
- เซิร์ฟเวอร์พิเศษ: เซิร์ฟเวอร์พรางการเชื่อมต่อ, Split-tunneling
- การป้องกันการรั่วไหล: DNS, WebRTC, IPv6
- Kill switch: มี
- นโยบายการไม่บันทึกข้อมูล: มี
การทดสอบความเร็วของ ExpressVPN
ด้วยเซิร์ฟเวอร์ VPN ที่ตั้งอยู่ใน 94 ประเทศ ExpressVPN นำเสนอเครือข่ายที่ครอบคลุมมากที่สุดแห่งหนึ่งในรายการนี้และมีอย่างน้อย 15 ประเทศที่มีเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ในหลายตำแหน่ง ตัวอย่างเช่นสหรัฐอเมริกาที่มีตั้งเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 20 แห่ง (ในนิวยอร์ก ชิคาโก ซอลต์เลกซิตี ลอสแองเจลิส ฯลฯ ) ในขณะที่สหราชอาณาจักรมีสถานที่ตั้ง 4 แห่ง (ด็อกแลนด์, อีสต์ ลอนดอน, ลอนดอนและเวมบลีย์) ฉันทดสอบการเชื่อมต่อในแต่ละประเทศและฉันทดสอบแต่ละเมืองในประเทศที่มีเซิร์ฟเวอร์หลายตำแหน่ง
นี่คือไฮท์ไลท์บางส่วน:
ฉันเชื่อมต่อผ่านเครื่องมือ “Smart Location” ของ ExpressVPN ซึ่งเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งของคุณ ฉันเชื่อมต่อกับทุกเซิร์ฟเวอร์ได้แทบจะในทันทีและรักษาความเร็วที่รวดเร็วได้แม้ในตำแหน่งที่ห่างจากเซิร์ฟเวอร์ในบ้านของฉันมากกว่า 6,000 ไมล์ (9,000 กิโลเมตร) ความเร็วสูงเหล่านี้เกิดจากโปรโตคอล “Lightway” ของ ExpressVPN ซึ่งทำงานได้ดีกว่าโปรโตคอล VPN อื่น ๆ มาก (รวมถึง WireGuard) และฉันชอบการทดสอบความเร็วในตัวของ ExpressVPN ซึ่งจะแสดงรายการเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดตามดัชนีความเร็ว ความหน่วงและความเร็วในการดาวน์โหลด (และคุณสามารถคลิกตัวเลือกเหล่านั้นเพื่อเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ)
โดยรวมแล้ว ExpressVPN ลดความเร็วของฉันลงโดยเฉลี่ยเพียง 15% ซึ่งดีกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่มาก
ทดลองใช้งาน ExpressvPN เลยตอนนี้
ExpressVPN สตรีมมิ่ง: ยอดเยี่ยม
ExpressVPN เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการสตรีม มันสามารถเข้าถึงบริการสตรีมที่เป็นที่นิยมได้ทั้งหมดและยังโฆษณาว่าสามารถเข้าถึงบริการอื่น ๆ อีกกว่า 65 บริการที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักอย่าง Kodi, Sling TV และ FuboTV ฉันไม่มีปัญหาในการรับชมภาพยนตร์และรายการทีวีในคุณภาพระดับ HD และ 4K บน Netflix, Hulu, YouTube และแอปสตรีมมิ่งอื่น ๆ นอกจากนี้ ฟีเจอร์ MediaStreamer ของ ExpressVPN ยังช่วยให้คุณสามารถสตรีมบนอุปกรณ์ที่ไม่รองรับแอป VPN ได้ เช่น Roku, สมาร์ททีวีบางรุ่น (Apple TV) และคอนโซลเกม

ExpressVPN ทอร์เรนต์: ยอดเยี่ยม
ExpressVPN รองรับการแชร์ไฟล์แบบ P2P และการทอร์เรนต์ในมากกว่า 3,000 เซิร์ฟเวอร์ ไม่เหมือนกับบริการ VPN ระดับชั้นนำอื่น ๆ ที่รองรับเฉพาะการทอร์เรนต์บนเซิร์ฟเวอร์สำหรับ P2P โดยเฉพาะเท่านั้น นอกจากนี้มันยังใช้งานได้กับไคลเอนต์ทอร์เรนต์ชั้นนำทั้งหมด รวมถึง BitTorrent, uTorrent, Deluge, Vuze และอื่น ๆ (ฉันมีความเร็วในการดาวน์โหลดที่เร็วที่สุดกับ BitTorrent)
คุณไม่ต้องกังวลว่าหมายเลข IP ของคุณจะรั่วไหลในขณะที่ทำการทอร์เรนต์ ก่อนที่ฉันจะเริ่มดาวน์โหลดไฟล์ใด ๆ ฉันได้ทำการทดสอบการรั่วไหลของ DNS, WebRTC และ IPv6 ในมากกว่า 20 ประเทศและไม่เคยพบปัญหาการรั่วไหลเลย
ExpressVPN ยังมีฟีเจอร์ Split-tunneling ซึ่งช่วยให้คุณเลือกส่งข้อมูลการใช้อินเทอร์เน็ตผ่าน VPN หรือเครือข่ายปกติของคุณ ฉันชอบเครื่องมือ Split-tunneling ของ ExpressVPN มากเพราะใช้งานได้ง่าย ฉันมักจะใช้ฟีเจอร์ Split-tunneling ในขณะที่ทำการทอร์เรนต์ เพื่อกำหนดให้การรับส่งข้อมูงของแอป P2P นั้นทำผ่าน VPN เท่านั้น มันจะช่วยเพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลดของฉัน นอกจากนี้ ExpressVPN ยังเป็นหนึ่งใน VPN ที่นำเสนอฟีเจอร์ Split-tunneling ในอุปกรณ์ Mac (macOS 10.15 และต่ำกว่า) และ Private Internet Access เป็น VPN เดียวในรายการนี้ที่มี Split-tunneling สำหรับ macOS (ทุกเวอร์ชัน)
ExpressVPN หลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์: ยอดเยี่ยม
ExpressVPN มีเซิร์ฟเวอร์พรางการเชื่อมต่อ (Obfuscated) ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณได้รับเสรีภาพบนอินเทอร์เน็ตของคุณคืนด้วยหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์ บริการเน้นความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ExpressVPN เป็นวิธีหลีกเลี่ยงการปิดกั้นและการบล็อก VPN ที่ง่าย รวดเร็วและปลอดภัยที่สุด
เซิร์ฟเวอร์พรางการเชื่อมต่อของ ExpressVPN มีอยู่ในทั่วโลก ดังนั้นผู้ใช้ในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์อย่างเข้มงวดสามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์ในประเทศใกล้เคียงเพื่อรับความเร็วที่เร็วที่สุด ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้ในอินโดนีเซียสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสิงคโปร์ ผู้ใช้ในประเทศจีนสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ใดก็ได้ แต่ ExpressVPN มีรายการตำแหน่งที่แนะนำเพื่อให้ได้ความเร็วในการเชื่อมต่อที่ดีที่สุดและน่าเชื่อถือที่สุด แม้ว่า ExpressVPN จะแนะนำให้ใช้โปรโตคอลอัตโนมัติเพื่อเลี่ยงผ่านไฟร์วอลล์ แต่โปรโตคอลทั้งหมดก็สามารถใช้งานได้ในประเทศส่วนใหญ่
ทดลองใช้งาน ExpressvPN เลยตอนนี้
แผนการบริการและราคาของ ExpressVPN
ExpressVPN นำเสนอแผนรายเดือน 1-2 แผนและแผนรายปี แม้ว่า ExpressVPN จะมีราคาแพงกว่าผู้ให้บริการบางรายเล็กน้อยในรายการนี้ แต่ก็มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุดด้วยฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย ความเร็วและความเป็นส่วนตัวที่ยอดเยี่ยม (และความสามารถในการสตรีมที่แข็งแกร่งด้วย) และคุณยังสามารถรับส่วนลด 49% จากแผนรายปี เหลือเพียง US$6.67 / เดือน ฉันเคยเห็น ExpressVPN ให้ข้อเสนอการใช้งาน 3 เดือนฟรีเป็นครั้งคราว ดังนั้นคุณจึงสามารถรับบริการได้ทั้งหมด 15 เดือน
xpressVPN รับการชำระเงินในหลายรูปแบบรวมถึงบัตรเครดิตจาก 7 บริษัท, PayPal, Bitcoin และบริการธนาคารออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Mint, Qiwi, iDeal, Sofort และอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีการรับประกันคืนเงิน 30 วันสำหรับทุกแผนบริการอีกด้วย
ทดลองใช้งาน ExpressVPN (ทดลองใช้งานโดยไม่มีความเสี่ยง 30 วัน)
อ่านรีวิว ExpressVPN ตัวเต็ม>
🥈2. Private Internet Access — ยืดหยุ่น รวดเร็ว + ใช้งานได้หลากหลาย ยอดเยี่ยมสำหรับการสตรีม & ทอร์เรนต์
Private Internet Access (PIA) นั้นปลอดภัย รักษาความเร็วที่รวดเร็วได้ในทุกเซิร์ฟเวอร์และทำการสตรีมและทอร์เรนต์ได้อย่างยอดเยี่ยมในการทดสอบของฉัน ในการทดสอบของฉัน PIA สามารถใช้งานร่วมกับบริการสตรีมมิ่งยอดนิยมทั้งหมด เช่น Netflix, Hulu, Disney+ และอื่น ๆ อีกมากมายและไม่มีการกระตุกหรือสะดุดขณะเล่นเนื้อหา PIA นั้นยอดเยี่ยมสำหรับการทอร์เรนต์ เนื่องจากรองรับการ P2P บนเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด สามารถทำงานร่วมกับไคลเอนต์ทอร์เรนต์ชั้นนำได้ทั้งหมดและยังมี port forwarding ซึ่งช่วยให้คุณเชื่อมต่อแบบ peer to peer เพื่อรับความเร็วในการดาวน์โหลดที่เร็วขึ้น PIA ยังสามารถหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์และข้อจำกัดในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์จำนวนมากได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย
PIA นั้นยอดเยี่ยมสำหรับการทอร์เรนต์ เนื่องจากรองรับการ P2P บนเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด ใช้านร่วมกับไคลเอนต์ทอร์เรนต์ชั้นนำทั้งหมดและยังมี Port Forwarding ซึ่งช่วยให้คุณเชื่อมต่อโดยตรงกับคนอื่นเพื่อรับความเร็วในการดาวน์โหลดที่เร็วขึ้น PIA ยังโดดเด่นในการหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์และข้อจำกัดในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์จำนวนมาก
ในด้านตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ PIA มีเซิร์ฟเวอร์ในกว่า 80 ประเทศ และยังเป็น VPN เดียวที่มีเซิร์ฟเวอร์ในทั้งหมด 50 รัฐในอเมริกา ที่ให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในรัฐของคุณเองเพื่อให้ได้ความเร็วมากที่สุดและสามารถหลีกเลี่ยงการปิดกั้นการเข้าถึงเนื้อหาในพื้นที่
สิ่งที่ฉันชอบเกี่ยวกับ PIA คือความมุ่งมั่นในการนำเสนอความเป็นส่วนตัวให้แก่ผู้ใช้ ในขณะที่ VPN ส่วนใหญ่อ้างว่าไม่ได้บันทึกข้อมูลผู้ใช้ (แต่ไม่สามารถพิสูจน์คำอ้างนั้นได้จริง ๆ ) Private Internet Access ก็โฆษณาว่าบริการไม่บันทึกข้อมูลผู้ใช้ แต่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นจริงในหลายคดี PIA ยังเผยแพร่สิ่งที่ฉันชอบเกี่ยวกับ PIA คือความมุ่งมั่นในการนำเสนอความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อย่างแรงกล้า — ในขณะที่ VPN ส่วนใหญ่อ้างว่าพวกเขาไม่ได้บันทึกข้อมูลผู้ใช้ (แต่ไม่สามารถยืนยันได้จริง ๆ ) บริการของ Private Internet Access ได้รับการยืนการไม่บันทึกข้อมูลผู้ใช้ในหลายคดีในศาลและพิสูจน์แล้วว่าเป็นจริงทุกครั้ง PIA ยังเผยแพร่ รายงานความโปร่งใสเอยู่ตลอด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริการไม่สร้างบันทึกใด ๆ และแอปของ PIA นั้นเป็นโอเพ่นซอร์สโดยสมบูรณ์
และเมื่อพูดถึงความปลอดภัย PIA ใช้เซิร์ฟเวอร์ RAM เท่านั้น, มี Perfect Forward Secrecy, Kill switch (รวมถึงสำหรับ iOS) และ DNS ของตัวเอง, Split-tunneling ใช้งานได้บน Android, Windows, Mac และ Linux และคุณสามารถเลือกยกเว้นแอปและหมายเลข IP ได้ (ExpressVPN ให้คุณเลือกยกเว้นแอปได้อย่างเดียว) PIA ยังมีเครื่องมือบล็อกโฆษณาที่ดีและใช้งานได้ง่าย (PIA MACE) ที่จะช่วยบล็อกตัวติดตามและป้องกันคุณจากการเข้าถึงเว็บไซต์ที่อาจเป็นอันตราย
PIA มีแอปที่ยืดหยุ่นและปรับแต่งได้มากที่สุด (มีให้ใช้ในภาษาไทย) เมื่อเทียบกับ VPN อื่น ๆ ในรายการนี้ แอปทั้งหมดได้รับการออกแบบมาอย่างดี ใช้งานง่ายและนำเสนอการปรับแต่งมากมายสำหรับผู้ใช้ขั้นสูง เช่น ระดับการเข้ารหัสที่แตกต่างกัน, หมายเลข IP และแอปที่ไม่รับส่งข้อมูลผ่านแอป, การเชื่อมต่อพอร์ตภายในเครื่อง, กฎการทำงานอัตโนมัติและอื่น ๆ อีกมากมาย
PIA อนุญาตให้เชื่อมต่อพร้อมกันสูงสุด 10 รายการและมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันในทุกแผนบริการ
ทดลองใช้งาน Private Internet Access (ใช้งานได้โดยไม่มีความเสี่ยง 30 วัน)
ข้อเท็จจริงด้านความปลอดภัยของ Private Internet Access
- เซิร์ฟเวอร์ในทั่วโลก: ไม่ทราบ
- โปรโตคอล: OpenVPN, WireGuard, IKEv2/IPSec (iOS only)
- การเข้ารหัส: 128-bit AES, 256-bit AES
- เซิร์ฟเวอร์พิเศษ: เซิร์ฟเวอร์พรางการเชื่อมต่อ, Port forwarding, Split-tunneling, SOCKS5, สตรีมมิ่ง
- การป้องกันการรั่วไหล: DNS, WebRTC, IPv6
- Kill switch: มี
- นโยบายการไม่บันทึกข้อมูล: มี
การทดสอบความเร็วของ Private Internet Access
PIA แสดงรายการค่า Ping ในทุกเซิร์ฟเวอร์ในเครือข่าย ช่วยให้คุณสามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดได้อย่างง่ายดาย ฉันเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่มีค่า Ping ต่ำที่สุดเมื่อทดสอบความเร็วการเชื่อมต่อของ PIA ในแต่ละประเทศ
นี่คือไฮท์ไลท์บางส่วน:
PIA นำเสนอความเร็วอินเตอร์เน็ตที่ดี เมื่อฉันทดสอบบริการของ PIA ความเร็วของฉันลดลงเพียง 6% บนเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุด อย่างไรก็ตามเมื่อฉันเชื่อมต่อกับบางเซิร์ฟเวอร์ของ PIA ในเอเชียและอเมริกาใต้ ความเร็วของฉันลดลงประมาณ 40% ซึ่งยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยมาก โดยรวมแล้ว PIA ทำให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของฉันช้าลงประมาณ 22% ช้ากว่า ExpressVPN แต่ก็ยังเร็วกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่
ทดลองใช้งาน Private Internet Access เลยตอนนี้
Private Internet Access สตรีมมิ่ง: ยอดเยี่ยม
PIA นั้นยอดเยี่ยมสำหรับการสตรีม สามารถใช้งานได้กับบริการสตรีมมิ่งยอดนิยมทั้งหมด ๆ ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ในระหว่างการทดสอบฉันสามารถเข้าถึง Netflix, Amazon Prime, Hulu, Disney+, Pluto TV, USA Network, VRV และเว็บไซต์สตรีมมิ่งอื่นๆ อีกมากมายได้ PIA ยังมีเซิร์ฟเวอร์ที่ปรับปรุงสำหรับการสตรีมในอย่างน้อย 7 ประเทศ (รวมถึงสหรัฐอเมริกา อังกฤษ อิตาลีและญี่ปุ่น) ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับแอปสตรีมมิ่งระหว่างประเทศโดยเฉพาะ รวมถึง Netflix, Disney+, Amazon Prime และ BBC iPlayer และบริการสตรีมมิ่งในท้องถิ่นเช่น RaiPlay (อิตาลี), Crunchyroll (อเมริกา), HBO Nordic (เดนมาร์ก) และ Ruutu (ฟินแลนด์)
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ Smart DNS ซึ่งช่วยให้คุณสตรีมภาพยนตร์และรายการทีวีบนอุปกรณ์ที่ไม่รองรับแอป VPN (คล้ายกับ MediaStreamer ของ ExpressVPN)
Private Internet Access ทอร์เรนต์: ยอดเยี่ยม
PIA อนุญาตให้ทอร์เรนต์บนเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดในกว่า 80 ประเทศ เช่นเดียวกับ ExpressVPN ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องค้นหาหรือเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์สำหรับ P2P โดยเฉพาะเหมือนในบริการ VPN อื่น ๆ (PIA เป็นหนึ่งใน VPN สำหรับทอร์เรนต์ที่ฉันชอบมากที่สุด) ฉันสุ่มทดสอบเซิร์ฟเวอร์ PIA ในทั่วโลกด้วยโปรแกรม uTorrent และ BitTorrent และฉันไม่มีปัญหาในการแชร์ไฟล์กับไคลเอนต์ทอร์เรนต์ ฉันยังชอบฟีเจอร์ Multi-hop ในโปรโตคอล SOCKS5 ของ PIA ซึ่งกำหนดเส้นทางการเชื่อมต่อของคุณผ่านพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งสามารถเพิ่มความเร็วการทอร์เรนต์ของคุณได้เล็กน้อย
ฉันทำการทดสอบการรั่วไหลของ DNS ของ PIA หลายครั้งและ PIA ก็ผ่านการทดสอบได้ทุกครั้ง ฉันชอบที่ PIA ปิดการรับส่งข้อมูล IPv6 โดยอัตโนมัติ – ฉันไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการปิดใช้งานด้วยตนเองเหมือนใน VyprVPNอย่างไรก็ตาม
Private Internet Access การหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์: ยอดเยี่ยม
PIA ใช้โปรโตคอล Shadowsocks และฟีเจอร์ Multi-hop เพื่อเลี่ยงไฟร์วอลล์ โปรโตคอลนี้จะซ่อนว่าคุณกำลังใช้งาน VPN เพื่อให้คุณสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ถูกจำกัดการเข้าถึงได้อย่างอิสระ โปรโตคอล Shadowsocks นั้นหาได้ง่าย (อยู่ใต้ตัวเลือก Proxy ในเมนูการตั้งค่า) และเปิดใช้งานได้ง่ายเพียงคลิกเดียว PIA ให้ตัวเลือกแก่คุณในการเชื่อมต่อกับหนึ่งใน 7 ประเทศ (เลือกประเทศที่ใกล้เคียงที่สุดกับตำแหน่งของคุณ) เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและอิสราเอล เพื่อ “หลีกเลี่ยง” ไฟร์วอลล์
ลองใช้ Private Internet Access เลยตอนนี้!
แผนการบริการและราคาของ Private Internet Access
PIA มีแผนการชำระเงิน 3 แบบซึ่งมีราคาไม่แพง ที่จริง PIA เป็นหนึ่งใน VPN ที่ถูกที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยบริการมีแผนเริ่มต้นเพียง US$2.11 / เดือน แผนระยะยาวรวมการสมัครสมาชิก Boxcryptor (บริการเข้ารหัสบนคลาวด์) ฟรี 1 ปี PIA ยังมีส่วนเสริมรายเดือน เช่น โปรแกรมป้องกันไวรัสและหมายเลข IP เฉพาะนำเสนออีกด้วย
PIA รับบัตรเครดิต PayPal และสกุลเงินดิจิตอล เช่น Bitpay, Bitcoin, Ethereum และ Litecoin ฉันยังชอบที่คุณสามารถชำระเงินด้วยบัตรของขวัญ Amazon เพื่อปกปิดตัวตนโดยสมบูรณ์แบบ PIA มีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันให้ในแต่ละแผน
ทดลองใช้งาน Private Internet Access (ใช้งานได้โดยไม่มีความเสี่ยง 30 วัน)
อ่านรีวิว Private Internet Access ตัวเต็ม >
🥉3. ProtonVPN — VPN ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับความปลอดภัย & ความเร็ว

ProtonVPN เป็น VPN ที่ปลอดภัย รวดเร็วและใช้งานง่ายมาก พัฒนาโดยทีมงานเดียวกับที่ทำบริการอีเมลเข้ารหัส ProtonMail ProtonVPN มีนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด เผยแพร่รายงานเพื่อความโปร่งใสเป็นประจำเพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้ส่งต่อข้อมูลผู้ใช้ให้กับทางการและมีสำนักงานตั้งอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ (ซึ่งอยู่นอกเขตอำนาจศาลของประเทศพันธมิตร 5/9/14 Eyes)
โครงสร้างของ Secure Core VPN ของ ProtonVPN จะส่งข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ผ่านเซิร์ฟเวอร์ ProtonVPN หลาย ๆ ตัว (ซึ่งตั้งอยู่ในบังเกอร์ใต้ดินและศูนย์ข้อมูลในสวิตเซอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์และสวีเดน) ก่อนที่ข้อมูลจะออกจากเครือข่ายของ ProtonVPN และแอปทั้งหมดของ ProtonVPN เป็นโอเพ่นซอร์ส ทำให้ทุกคนสามารถตรวจสอบซอร์สโค้ดของซอฟต์แวร์และค้นหาช่องโหว่ด้านความปลอดภัยหรือความเป็นส่วนตัวได้ (แอปยังได้รับการตรวจสอบและยืนยันจากบริการอิสระด้วย)
ProtonVPN มีการเข้ารหัสดิสก์ (เข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดบนเซิร์ฟเวอร์ ดังนั้นจึงไม่สามารถอ่านข้อมูลได้อย่างสมบูรณ์) และ Perfect Forward Secrecy นอกจากนี้ยังมีบริการพิเศษเช่น Split-tunneling และเครื่องมือบล็อกโฆษณาและตัวติดตาม สามารถใช้งานร่วมกับบริการสตรีมมิ่งหลัก ๆ ได้ทั้งหมดและรองรับการทอร์เรนต์ ProtonVPN สามารถเข้าถึง Tor ผ่านการเชื่อมต่อ VPN ทำให้คุณสามารถเข้าถึงเว็บ .onion ในเบราว์เซอร์ปกติของคุณได้ ในขณะที่ซ่อนหมายเลข IP ของคุณจากโหนด Tor ด้วย
ProtonVPN นำเสนอทั้งบริการฟรีและบริการพรีเมี่ยมหลายแผน นอกจากนี้ยังมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันตามสัดส่อนอีกด้วย
ทดลองใช้ ProtonVPN (ทดลองใช้งานโดยไม่มีความเสี่ยง 30 วัน)
ข้อเท็จจริงด้านความปลอดภัยของ ProtonVPN
- เซิร์ฟเวอร์ในทั่วโลก: 1,700+
- โปรโตคอล: OpenVPN, IKEv2/IPSec, WireGuard
- การเข้ารหัส: 256-bit AES
- เซิร์ฟเวอร์พิเศษ: Secure Core, P2P, สตรีมมิ่ง, Tor over VPN, Split-tunneling
- การป้องกันการรั่วไหล: DNS, WebRTC, IPv6
- Kill switch: มี
- นโยบายการไม่บันทึกข้อมูล: มี
การทดสอบความเร็วของ ProtonVPN
ฉันได้ทดสอบเซิร์ฟเวอร์แบบสุ่มในแต่ละประเทศของ ProtonVPN เพื่อดูว่า VPN นี้สามารถให้บริการเปรียบเทียบกับคู่แข่งได้อย่างไร
นี่คือไฮท์ไลท์บางส่วน:
ProtonVPN มีความเร็วที่ค่อนข้างเร็วในการทดสอบของฉัน แม้ว่าความเร็วในการดาวน์โหลดของฉันจะลดลงโดยเฉลี่ย 24% (ช้ากว่า ExpressVPN เล็กน้อย) ฉันยังสามารถใช้งาน สตรีมวิดีโอ และโทร VoIP (Voice over Internet Protocol) ได้อย่างราบรื่น แม้ว่าฉันจะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกล ProtonVPN ยังมี VPN Accelerator ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ใช้เครื่องมือขั้นสูงที่ช่วยลดความหน่วงและเพิ่มความเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกล (ความเร็วของฉันเพิ่มขึ้นถึง 40% ในบางเซิร์ฟเวอร์)
ProtonVPN สตรีมมิ่ง: ค่อนข้างดี
ProtonVPN ให้คำแนะนำโดยละเอียดเกี่ยวกับวิธีการเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งมากกว่า 30 รายการ ตั้งแต่บริการยอดนิยมเช่น Netflix, Hulu และ HBO ไปจนถึงแพลตฟอร์มที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักเช่น Peacock และ Pluto TV อย่างไรก็ตามโปรดทราบว่า ProtonVPN นั้นทำงานบนเดสก์ท็อปเป็นหลัก มีบริการสตรีมมิ่งบางอย่างเท่านั้นที่สามารถทำงานได้ทั้งอุปกรณ์ Android และ iOS

ProtonVPN ทอร์เรนต์: ค่อนข้างดี
ProtonVPN รองรับการทอร์เรนต์และมีเซิร์ฟเวอร์สำหรับ P2P บริการมีเซิร์ฟเวอร์ P2P มากกว่า 300 เซิร์ฟเวอร์ในมากกว่า 16 ประเทศ รวมถึงอเมริกาเหนือ ไอซ์แลนด์ ยูโรป ฮ่องกง ไนจีเรียและสิงค์โปร (มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 140 แห่งในอเมริกา) ProtonVPN จะนำทางคุณไปยังเซิร์ฟเวอร์สำหรับ P2P โดยอัตโนมัติทันทีถ้าหากพบการรับส่งข้อมูลแบบ P2P ฉันได้ทดสอบเซิร์ฟเวอร์ P2P ของ ProtonVPN แล้วและฉันพบว่าฉันสามารถดาวน์โหลดทอร์เรนต์จากไคล์เอนท์ทอร์เรนต์ยอดนิยมได้อย่างรวดเร็วและ ProtonVPN ยังให้คุณสามารถใช้ฟีเจอร์ Port Forwarding บนแอป Windows ได้อีกด้วย
ProtonVPN นำเสนอการป้องกันการรั่วไหลของ DNS ที่ดี เช่นเดียวกับ ExpressVPN ฉันได้ทำการทดสอบการรั่วไหลของ DNS ในทุกเซิร์ฟเวอร์ P2P ของ ProtonVPN และไม่พบการรั่วไหลใด ๆ
ProtonVPN การหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์: ไม่ดี
น่าเสียดายที่ ProtonVPN ไม่มีเซิร์ฟเวอร์ Obfuscated และไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับการหลีกเลี่ยงการปิดกั้นอินเทอร์เน็ตในประเทศที่มีการจำกัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ProtonVPN ยอมรับว่าใช้ไม่ได้ในประเทศจีนและแนะนำให้ผู้ใช้ลองใช้ Tor bridge แทน
แผนการบริการและราคาของ ProtonVPN
เวอร์ชันฟรีของ ProtonVPN ให้คุณสามารถเชื่อมต่อได้เพียง 1 อุปกรณ์และให้คุณเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้เพียง 3 แห่ง (ในเนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา) แต่แผนบริการฟรีของ ProtonVPN ต่างจาก VPN ฟรีหลายตัวที่ให้ข้อมูลการใช้งานแบบไม่จำกัด (หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เป็น VPN ฟรีที่ดีที่สุด)
ProtonVPN มีแผนพรีเมียม1 เดือน 1 ปีและ 2 ปี แผน 1 เดือน นั้นมีราคาที่ US$9.99 / เดือน มันถูกกว่าบริการ VPN ส่วนใหญ่ แต่แผน 1 ปี (US$4.79 / เดือน) และแผน 2 ปี (US$3.99 / เดือน) นั้นมีราคาสูงกว่าราคาเฉลี่ยทั่วไปนิดหน่อย แต่ก็ยังให้ความคุ้มค่าที่ดี แต่ละแผนมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงิน 30 วันตามสัดส่วน
ทดลองใช้ ProtonVPN (ทดลองใช้งานโดยไม่มีความเสี่ยง 30 วัน)
อ่านรีวิว ProtonVPN ตัวเต็ม >
4. NordVPN — มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ดี & ความเร็วสูงในทุกเซิร์ฟเวอร์

NordVPN นำเสนอฟีเจอร์ความปลอดภัยหลากหลายที่ช่วยรักษาข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยเมื่อใช้งานอินเตอร์เน็ต เช่น Threat Protection ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือบล็อกโฆษณา VPN ที่ดีที่สุดและยังกำจัดโฆษณาที่เป็นอันตราย บล็อกการเชื่อมต่อกับไซต์ที่ไม่น่าไว้ใจและปกป้องอุปกรณ์ของคุณจากมัลแวร์ ยิ่งไปกว่านั้น Threat Protection ยังคงทำงานอยู่แม้ว่าคุณจะไม่ได้เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ซึ่งมันสะดวกมาก
นอกจากนี้ยังมี Dark Web Monitor ซึ่งจะสแกนดาร์กเว็บและแจ้งเตือนหากชื่อบัญชีที่เกี่ยวข้องกับ NordVPN ของคุณรั่วไหล ฉันดีใจมากที่ได้ตัวเลือกนี้ เนื่องจากเป็นหนึ่งใน VPN เดียวในตลาดที่มาพร้อมกับฟีเจอร์การตรวจสอบดาร์กเว็บ
ยิ่งไปกว่านั้น NordVPN ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมอื่น ๆ เช่น เซิร์ฟเวอร์ VPN สองขั้น ซึ่งเพิ่มการชั้นเข้ารหัสอีกชั้นหนึ่งและยังมาพร้อมกับการพรางการเชื่อมต่ออีกด้วย นอกจากนี้ VPN ยังมีโปรโตคอลของตัวเองที่เรียกว่า NordLynx ซึ่งออกแบบมาเพื่อมอบความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและความเร็วที่รวดเร็ว
NordVPN ยังมีฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงอื่น ๆ อีกด้วย ซึ่งรวมถึงการป้องกันการรั่วไหลเต็มรูปแบบ เซิร์ฟเวอร์ RAM และ Perfect Forward Secrecy นโยบายการไม่บันทึกการใช้งานของบริการได้รับการตรวจสอบโดยบริการอิสระแล้วว่าเป็นจริง (เช่นเดียวกับ ExpressVPN และ Private Internet Access) เมื่อหนึ่งในศูนย์ข้อมูลซึ่งเป็นที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์ได้ประสบกับปัญหาข้อมูลรั่วไหล แต่ไม่มีข้อมูลผู้ใช้รายใดถูกเผยแพร่ออกมาได้
บริการนี้ยังยอดเยี่ยมสำหรับการสตรีมและทอร์เรนต์อีกด้วย บริการสามารถเข้าถึงบริการสตรีมยอดนิยมมากมาย เช่น Netflix และ BBC iPlayer และมีเซิร์ฟเวอร์ P2P มากกว่า 4,500 เซิร์ฟเวอร์ เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้มีความเร็วที่ดีเหมาะสำหรับการสตรีม ทอร์เรนต์และกิจกรรมออนไลน์อื่น ๆ
ฉันยังคิดว่า NordVPN เป็น VPN สำหรับเล่นเกมที่ดีด้วยฟีเจอร์ Meshnet ซึ่งช่วยให้คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุด 60 เครื่องผ่านการเชื่อมต่อ VPN ที่เข้ารหัส สิ่งนี้ช่วยให้คุณโฮสต์ปาร์ตี้ LAN เสมือนได้อย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ VPN ยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย บริการมีมากกว่า 5,400+ เซิร์ฟเวอร์ใน 55 ประเทศ (รวมถึงประเทศไทย) มาพร้อมฟีเจอร์ Split-tunneling และมีแอปที่ใช้งานได้ง่ายสำหรับแพลตฟอร์มหลักทั้งหมด
ทดลองใช้ NordVPN (ใช้งานได้ 30 วันได้โดยไม่มีความเสี่ยง)
ข้อมูลด้านความปลอดภัยของ NordVPN
- เซิร์ฟเวอร์ในทั่วโลก: มากกว่า 5,400+
- โปรโตคอล: NordLynx, OpenVPN, IKEv2/IPSec
- การเข้ารหัส: 256-bit AES
- เซิร์ฟเวอร์พิเศษ: เซิร์ฟเวอร์พรางการเชื่อมต่อ, VPN สองชั้น, Onion Over VPN, หมายเลข IP เฉพาะ
- การป้องกันการรั่วไหล: DNS, WebRTC, IPv6
- Kill switch: มี
- นโยบายการไม่บันทึกข้อมูล: มี
การทดสอบความเร็วของ NordVPN
ฉันทดสอบสุ่มเซิร์ฟเวอร์จากแต่ละประเทศในกว่า 55 ประเทศของ NordVPN เพื่อดูว่าความเร็วเป็นอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับบริการคู่แข่ง
นี่คือไฮท์ไลท์บางส่วน:
โดยรวมแล้ว NordVPN ให้บริการได้ดีในการทดสอบของฉัน แม้ว่าบริการจะลดความเร็วของฉันลง 12% ในเซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่ (ช้ากว่า ExpressVPN และ Private Internet Access) แต่บริการก็ยังมีความเร็วที่มากพอสำหรับการใช้งานทั่วไป สตรีมและเกม และเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกล ฉันพบการชะลอตัวเพียง 37% โดยเฉลี่ย ฉันมีความเร็วที่รวดเร็วสำหรับกิจกรรมออนไลน์ทั้งหมด และพบการชะลอตัวในบางเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
การสตรีมมิ่งของ NordVPN: ทำได้ดี
NordVPN สามารถเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งได้มากกว่า 10 บริการ รวมถึงบริการชั้นนำอย่าง Netflix, Amazon Prime, Disney+, HBO max และ BBC iPlayer ฟีเจอร์ smart DNS ของผู้ให้บริการยังให้คุณเข้าถึงบริการสตรีมบนอุปกรณ์ที่ไม่รองรับ VPN เช่น สมาร์ททีวีและคอนโซลเกมบางรุ่นได้อีกด้วย นอกจากนี้ฟีเจอร์ SmartPlay ยังผสมผสานฟีเจอร์ความปลอดภัยของ VPN เข้ากับเทคโนโลยี smart DNS ในเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด ซึ่งทำให้แพลตฟอร์มสตรีมตรวจจับและบล็อกการเชื่อมต่อ VPN ของคุณได้ยากขึ้น

การทอร์เรนต์ของ NordVPN: ทำได้ดี
NordVPN อนุญาตให้ทอร์เรนต์บนกว่า 4,500 เซิร์ฟเวอร์ในกว่า 45 ประเทศ ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องเสี่ยงทอร์เรนต์บนเซิร์ฟเวอร์ที่มีผู้ใช้หนาแน่น ซึ่งอาจทำให้ความเร็วของคุณลดลง ฉันทดสอบผู้ให้บริการด้วยแอป P2P ยอดนิยม เช่น uTorrent และ Vuze และฉันไม่เคยประสบปัญหาใด ๆ เลย
คุณยังได้รับพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ SOCKS5 ใน 3 ประเทศ (สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์และสวีเดน) เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้เปลี่ยนหมายเลข IP ของคุณเหมือน VPN แต่ไม่ได้ใช้การเข้ารหัส คุณจึงมีความเร็วในการดาวน์โหลดที่เร็วขึ้นอย่างมาก ในการทดสอบของฉัน ความเร็วการ P2P ของฉันเร็วขึ้น 25% เมื่อฉันใช้พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ SOCKS5 แทนเซิร์ฟเวอร์ VPN
เช่นเดียวกับ ExpressVPN บริการของ NordVPN มาพร้อมกับการป้องกันการรั่วไหลอย่างเต็มรูปแบบ ฉันทำการทดสอบการรั่วไหลในขณะที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในกว่า 10 ประเทศก่อนที่จะเริ่มทอร์เรนต์ และฉันไม่เคยพบการรั่วไหลเลย
ฉันยังชอบฟีเจอร์การป้องกันภัยคุกคามของ NordVPN มากอีกด้วย มันสามารถปกป้องคุณจากการดาวน์โหลด P2P ที่เป็นอันตรายได้ เนื่องจากบริการสามารถสแกนไฟล์ขนาดสูงสุด 20 MB เพื่อตรวจหามัลแวร์ได้ นอกจากนี้ยังสามารถกำจัดโฆษณาที่น่ารำคาญบนเว็บ P2P ได้อีกด้วย
การเล่นเกมด้วย NordVPN: ทำได้ดี
NordVPN ช่วยให้การเล่นเกมของคุณนั้นทำได้ยอดเยี่ยม เนื่องจากมีความเร็วในการเชื่อมต่อที่ดี ในการทดสอบของฉัน ฉันมีค่า ping ที่ดีและเสถียรบนเซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่และค่า ping ของฉันก็อยู่ในระดับปานกลางและเสถียรเมื่อฉันเล่นเกมบนเซิร์ฟเวอร์ห่างไกล การเชื่อมต่อของฉันไม่เคยชะงักเลย แต่ฉันพบกับอาการแลคขณะเล่นเกมบนเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกล แต่มันก็เล็กน้อยมากและมันไม่ได้รบกวนการเล่นเกมของฉันเลย
ผู้ให้บริการนำเสนอการป้องกันการโจมตี DDoS (แต่ขาดการป้องกัน DDoS) และอนุญาตให้ตั้งค่าด้วยตนเองในเราเตอร์หลายรุ่น นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ที่ทำให้ขั้นตอนการตั้งค่าค่อนข้างง่าย แต่ฉันคิดว่า ExpressVPN มีการรองรับเราเตอร์ที่ดีกว่า เนื่องจากมาพร้อมกับแอปเราท์เตอร์เฉพาะที่ติดตั้งและใช้งานง่าย
น่าเสียดายที่ตัวแทนของ NordVPN บอกฉันว่าพวกเขาไม่สามารถรับประกันได้ว่า VPN จะทำงานกับแพลตฟอร์มเกมบนคลาวด์ได้ แต่ฉันไม่พบปัญหาใด ๆ ในขณะที่ใช้ NordVPN บนแพลตฟอร์มอย่าง Google Stadia แต่คุณอาจไม่ได้ผลลัพธ์เหมือนกับฉันเสมอไป ฉันขอแนะนำให้เลือก ExpressVPN แทน เนื่องจากมาพร้อมกับการรองรับการเล่นเกมบนคลาวด์
ฉันชอบฟีเจอร์ Meshnet ของ NordVPN มาก คุณสามารถใช้ฟีเจอร์นี้เพื่อโฮสต์ปาร์ตี้ LAN เสมือนและรักษาความปลอดภัยการเชื่อมต่อของคุณกับอุปกรณ์ของเพื่อนโดยใช้การเข้ารหัส VPN นอกจากนี้ Meshnet ยังใช้โปรโตคอล NordLynx ของผู้ให้บริการ ซึ่งให้ความเร็วที่รวดเร็วมากอีกด้วย
การเลี่ยงการปิดกั้น NordVPN: ทำได้ไม่ดี
น่าเสียดายที่ NordVPN ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์ในประเทศที่มีข้อจำกัด หากคุณต้องการใช้ VPN ในประเทศที่มีขข้อจำกัดอย่าง จีนและอิหร่าน คุณต้องทำการตั้งค่าด้วยตนเองกับเซิร์ฟเวอร์ VPN เฉพาะ โชคดีที่บริการมีคำแนะนำอย่างละเอียดที่เป็นประโยชน์ซึ่งแสดงให้คุณเห็นว่าคุณต้องทำอะไรบ้าง น่าเสียดายที่ตัวแทนของบริการยืนยันว่าไม่มีการรับประกันว่า NordVPN จะทำงานในพื้นที่ที่มีการจำกัดได้ คู่แข่งอันดับต้น ๆ อย่าง ExpressVPN และ Private Internet Access เป็นตัวเลือกที่ดีกว่ามากในกรณีนี้
แผนบริการ + ราคาของ NordVPN
NordVPN มีแผนบริการ 1 เดือน 1 ปีและ 2 ปีและยังมีระดับที่แตกต่างกันอีก: Standard, Plus และ Complete
แผน Standard นั้นมีราคาเริ่มต้นที่ US$3.29 / เดือน และมีฟีเจอร์ทั้งหมด
แผน Plus นั้นมีราคาเริ่มต้นที่ US$4.49 / เดือน และเพิ่ม NordPass ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ดีมาก
และแผน Complete มีราคาเริ่มต้นที่ US$5.99 / เดือน และเพิ่ม NordLocker ซึ่งเป็นพื้นที่เก็บข้อมูลเข้ารหัสบนคลาวด์
NordVPN รับวิธีการชำระเงินหลายวิธี รวมถึงบัตรเครดิต/เดบิต, PayPal และสกุลเงินดิจิทัล นอกจากนี้นำเสนอการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันสำหรับทุกแผนอีกด้วย
ทดลองใช้ NordVPN (ใช้งานได้ 30 วันได้โดยไม่มีความเสี่ยง)
อ่านรีวิวฉบับเต็มของ NordVPN >
5. Surfshark — VPN ที่ยอดเยี่ยมสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ & มีราคาถูก

Surfshark ให้คุณสามารถเชื่อมต่อได้โดยไม่มีข้อจำกัด คุณสามารถเชื่อมต่อในกี่อุปกรณ์ก็ได้ ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ที่มองหา VPN ที่ดี ฉันดีใจมากที่ได้เห็นตัวเลือกนี้ เพราะมีไม่กี่บริการที่ให้การเชื่อมต่อไม่จำกัดอุปกรณ์
Surfshark เป็นหนึ่งใน VPNs ที่มีราคาถูกที่สุดในตลาด มาพร้อมแผนบริการเริ่มต้นที่ US$2.30 / เดือน ดังนั้นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณมีงบจำกัด
บริการมาพร้อมกับฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ดีมาก รวมถึง CleanWeb ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือบล็อกโฆษณาบน VPN ที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์พรางการเชื่อมต่อ การเชื่อมต่อ VPN สองชั้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัย และ IP Rotator ซึ่งช่วยเปลี่ยนหมายเลข IP ของคุณเป็นประจำเพื่อให้ผู้อื่นติดตามตำแหน่งของคุณได้ยากขึ้น ผู้ให้บริการยังมีฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูง เช่น เซิร์ฟเวอร์เฉพาะ RAM และ Perfect Forward Secrecy อย่างไรก็ตามบริการไม่มีการป้องกันการรั่วไหลเต็มรูปแบบเหมือนกับ ExpressVPN และ Private Internet Access (แต่ฉันไม่เคยพบการรั่วไหลในการทดสอบของฉันเลย)
บริการสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งหลัก ๆ อย่าง Netflix, HBO Max และ BBC iPlayer ได้ แต่ไม่สามารถเข้าถึง Disney+ เหมือนกับ ExpressVPN ได้ นอกจากนี้ยังรองรับการดาวน์โหลด P2P ในทุกเซิร์ฟเวอร์
Surfshark มีมากกว่า 3,200+ เซิร์ฟเวอร์ในกว่า 90 ประเทศ (รวมถึงประเทศไทยด้วย) ซึ่งทำให้สามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงได้อย่างรวดเร็ว พูดถึงเรื่องความเร็วแล้ว ความเร็วในเซิร์ฟเวอร์ส่วนใหญ่นั้นรวดเร็วมาก แต่ฉันพบกับการชะลอตัวอย่างมากในเซิร์ฟเวอร์ระยะไกล
ทดลองใช้ Surfshark (ใช้งานได้ 30 วันได้โดยไม่มีความเสี่ยง)
ข้อมูลด้านความปลอดภัยของ Surfshark
- เซิร์ฟเวอร์ในทั่วโลก: มากกว่า 3,200+
- โปรโตคอล: WireGuard, OpenVPN, IKEv2/IPSec
- การเข้ารหัส: 256-bit AES
- เซิร์ฟเวอร์พิเศษ: Double VPN
- การป้องกันการรั่วไหล: DNS
- Kill switch: มี
- นโยบายการไม่บันทึกข้อมูล: มี
การทดสอบความเร็วของ Surfshark
ฉันทำการสุ่มทดสอบความเร็วบนเซิร์ฟเวอร์ในกว่า 90 ประเทศของ Surfshark เพื่อดูว่าความเร็วเฉลี่ยของ VPN
นี่คือผลการทดสอบบางส่วน:
โดยรวมแล้ว Surfshark ให้ความเร็วที่ดีแก่ฉันในเซิร์ฟเวอร์เกือบทั้งหมด มันลดความเร็วของฉันลงประมาณ 13% บนเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้ที่สุด แต่ยังช้ากว่าExpressVPN และ Private Internet Accessแต่ฉันยังคงสามารถเพลิดเพลินกับความเร็วที่รวดเร็วสำหรับกิจกรรมออนไลน์ทั้งหมดได้และยังคงรักษาความเร็วเหล่านั้นไว้บนเซิร์ฟเวอร์ใกล้เคียงและเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลบางเซิร์ฟเวอร์ได้ นอกจากนี้ฉันยังพบการชะลอตัวอย่างมาก (84% โดยเฉลี่ย) ในเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลเท่านั้น
Surfshark ยังมีการทดสอบความเร็วในตัวที่ให้คุณทดสอบเซิร์ฟเวอร์เพื่อดูว่าเซิร์ฟเวอร์ใดให้ความเร็วที่เร็วที่สุด แต่ฟีเจอร์นี้ไม่แม่นยำเท่าไหร่นัก (และใช้งานได้ไม่ค่อยสะดวก) พูดตามตรงการทดสอบความเร็วของ ExpressVPN นั้นดีกว่ามาก
การสตรีมมิ่งของ Surfshark: ส่วนใหญ่แล้วทำได้ดี
Surfshark เป็น VPN ที่ค่อนข้างเหมาะสำหรับการสตรีม เนื่องจากบริการสามารถเข้าถึงบริการสตรีมยอดนิยมส่วนใหญ่ รวมถึง Netflix, Amazon Prime, HBO Max และ BBC iPlayer น่าเสียดายที่มันไม่สามารถเข้าถึง Disney+ ได้เหมือนกับ ExpressVPN และ Private Internet Access บริการยังมี smart DNS ที่คุณสามารถใช้เพื่อเข้าถึงบริการสตรีม (จากสหรัฐอเมริกาเท่านั้น) บนอุปกรณ์ที่ไม่รองรับ VPN ได้อีกด้วย
นอกจากนี้นี่เป็นหนึ่งใน VPN เดียวที่มีฟีเจอณ์ที่ให้คุณจับคู่ตำแหน่ง GPS ของคุณกับหมายเลข IP ของคุณ ฟีเจอร์นี้มีให้ใช้งานบน Android เท่านั้นและช่วยให้คุณสามารถรับชมวิดีโอภายในแอปสตรีมบนมือถือได้ (โดยปกติแล้วคุณจะต้องดูจากเว็บสตรีมมิ่ง)

การทอร์เรนต์ของ Surfshark: ส่วนใหญ่แล้วทำได้ดี
Surfshark ให้การสนับสนุนการทอร์เรนต์ที่ดี เนื่องจากอนุญาตให้ดาวน์โหลด P2P ผ่านเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด นอกจากนี้ฉันยังทดสอบกับไคลเอนต์ P2P ยอดนิยมอย่าง qBittorrent และ Vuze และใช้งานได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ แต่ฉันคิดว่ามันน่าเสียดายที่บริการขาดฟีเจอร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ P2P ไป เช่น Port Forwarding (ที่ Private Internet Access และ Proton VPN นำเสนอ)
ฉันยังทำการทดสอบการรั่วไหลก่อนที่จะเริ่มทอร์เรนต์และฉันไม่พบการรั่วไหลใด ๆ เมื่อเชื่อมต่อด้วย Surfshark แต่บริการไม่มีการป้องกันการรั่วไหลอย่างเต็มรูปแบบเช่น ExpressVPN และ Private Internet Access
นอกจากนี้ฉันชอบที่ฟีเจอร์ CleanWeb สามารถปกป้องคุณจากเว็บไซต์ P2P ที่เป็นอันตราย นอกจากนี้ยังสามารถกำจัดโฆษณาส่วนใหญ่ในเว็บทอร์เรนต์ได้อีกด้วย
การเล่นเกมด้วย Surfshark: ส่วนใหญ่แล้วทำได้ดี
Surfshark นั้นเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างดีสำหรับการเล่นเกม เนื่องจากบริการรักษาความเร็วที่ดีได้เสมอบนเซิร์ฟเวอร์ใกล้เคียง ค่า Ping ของฉันต่ำมากและเสถียรเสมอ แต่ฉันพบปัญหา Ping สูงและความล่าช้าขณะเล่นเกมบนเซิร์ฟเวอร์ระยะไกล ซึ่งบางครั้งก็รบกวนการเล่นเกมของฉัน
ผู้ให้บริการยังมาพร้อมกับการป้องกัน DDoS และรองรับการตั้งค่าในเราเตอร์หลายรุ่น แม้ว่าหากคุณสนใจใช้ VPN บนเราท์เตอร์เพื่อเล่นเกมเป็นหลัก ฉันขอแนะนำให้ลองใช้ ExpressVPN แทน เพราะมีแอปสำหรับเราท์เตอร์ที่ติดตั้งและใช้งานง่ายมาก
อย่างไรก็ตาม Surfshark ไม่รับประกันว่าบริการของตนจะใช้งานได้กับแพลตฟอร์มเกมบนระบบคลาวด์ ฉันสามารถใช้งานได้ในการทดสอบของฉัน แต่ฉันไม่สามารถรับประกันได้ว่าคุณจะได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน หากคุณสนใจเกี่ยวกับการเล่นเกมบนคลาวด์ ให้ลองใช้ ExpressVPN แทน เนื่องจากรองรับบริการเกมบนคลาวด์
การเลี่ยงการปิดกั้น Surfshark: ทำได้ไม่ดี
Surfshark ใช้งานได้ไม่ต่อเนื่องในประเทศที่มีข้อจำกัด เช่น จีนและอิหร่าน ตัวแทนบอกฉันว่าแอปใช้งานได้เพียงบางเวลาและผู้ใช้ต้องตั้งค่าการเชื่อมต่อด้วยตนเองซึ่งจะมีแนวโน้มว่าจะใช้งานได้มากกว่า (แต่ก็ไม่สะดวกเช่นกัน) หากคุณต้องการ VPN ที่ทำงานอย่างสม่ำเสมอในพื้นที่ที่มีข้อจำกัด ฉันขอแนะนำ ExpressVPN และ Private Internet Access
แผนบริการ + ราคาของ Surfshark
Surfshark มีแผนบริการราคาถูก ซึ่งมีระยะเวลา 1เดือน 1 ปีและ 2 ปี ฉันคิดว่าแผนที่มีระยะเวลานานที่สุดนั้นคุ้มค่าที่สุด US$2.30 / เดือน ซึ่งราคาถูกสุด ๆ นั้นยังมาพร้อมกับบริการฟรี 2 เดือนอีกด้วย ผู้ให้บริการยอมรับวิธีการชำระเงินหลายวิธี รวมถึงบัตรเครดิต/เดบิต, PayPal, Google Pay, Amazon Pay และสกุลเงินดิจิทัล นอกจากนี้ยังมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันอีกด้วย
ทดลองใช้ Surfshark (ใช้งานได้ 30 วันได้โดยไม่มีความเสี่ยง)
อ่านรีวิวฉบับเต็มของ Surfshark ได้ที่นี่ >
6. CyberGhost VPN — ประสิทธิภาพสูงด้วยเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ (แนะนำสำหรับการเล่นเกม)

CyberGhost VPN มีการเชื่อมต่อความเร็วสูง ใช้งานง่ายและเป็น VPN ที่ดีสำหรับเกมเมอร์ ความเร็วเฉลี่ยลดลงเพียง 30% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยมากและ CyberGhost มีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ (8100+ เซิร์ฟเวอร์) ดังนั้นมันจึงง่ายต่อการค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่รวดเร็วในสถานที่ต่าง ๆ มากมาย
ด้วย CyberGhost ฉันสามารถเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งได้มากกว่า 80 บริการโดยไม่มีการหยุดชะงัก (Netflix, Hulu และอีกมากมาย) และฉันดาวน์โหลดทอร์เรนต์ด้วยไคลเอนต์ทอร์เรนต์บริการรายใหญ่ทั้งหมดได้โดยไม่มีปัญหาใด ฉันชอบอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของ CyberGhost อย่างมาก มันบอกคุณอย่างชัดเจนว่าต้องเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ใด หากคุณต้องการสตรีมเนื้อหาหรือทอร์เรนต์ คุณสามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ดีที่สุดได้โดยไม่ต้องคาดเดา
ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมของ CyberGhost ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีอย่างยิ่งสำหรับเกมมอร์ที่กำลังมองหา VPN ที่รวดเร็วและเสถียร ฉันเชื่อมต่อ CyberGhost VPN กับเราเตอร์เพื่อครอบคลุมเกมคอนโซลของฉัน (เนื่องจาก Xbox และ PS4 ไม่รองรับการเชื่อมต่อ VPN) และฉันสามารถเล่นเกมได้อย่างรวดเร็วและราบรื่นโดยไม่มีการสะดุดใด ๆ
คุณยังได้รับฟีเจอร์บล็อกเนื้อหาที่บล็อกชื่อโดเมน DNS เพื่อบล็อกโฆษณา เครื่องมือติดตามและมัลแวร์ ฟีเจอร์นี้ดีมาก มันช่วยในการตรวจสอบเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายและไม่อนุญาตให้เว็บไซต์ติดตามกิจกรรมใด ๆ ของคุณ (เพื่อแสดงโฆษณาที่กำหนดเป้าหมาย) แต่ก็ใช้งานได้ไม่ได้ดีเท่ากับเครื่องมือ MACE ของ Private Internet Access (มันบล็อกโฆษณาได้เพียงไม่กี่รายการเท่านั้น)
CyberGhost VPN อนุญาตให้เชื่อมต่อพร้อมกัน 7 อุปกรณ์และมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงิน 14 วันสำหรับแผนรายเดือนและรับประกันคืนเงิน 45 วันสำหรับแผนรายปี
ทดลองใช้งาน CyberGhost VPN (ใช้งานได้โดยไม่มีความเสี่ยง 45 วัน)
ข้อเท็จจริงด้านความปลอดภัยของ CyberGhost VPN
- เซิร์ฟเวอร์ในทั่วโลก: 8100+ (รวมถึงในประเทศไทย)
- โปรโตคอล: OpenVPN, IKEv2, WireGuard
- การเข้ารหัส: 256-bit AES
- เซิร์ฟเวอร์พิเศษ: No-Spy (ตั้งอยู่ในโรมาเนีย), P2P, สตรีมมิ่ง, split-tunneling สำหรับเล่นเกม
- การป้องกันการรั่วไหล: DNS, WebRTC, IPv6
- Kill switch: มี
- นโยบายการไม่บันทึกข้อมูล:มี
การทดสอบความเร็วของ CyberGhost VPN
CyberGhost มี 8,100+ เซิร์ฟเวอร์ใน 90+ ประเทศ ซึ่งมากกว่าผู้ให้บริการ VPN อื่น ๆ ส่วนใหญ่ ฉันทดสอบความเร็วการเชื่อมต่อ CyberGhost VPN ในแต่ละประเทศ
นี่คือไฮท์ไลท์บางส่วน:
แม้ว่า CyberGhost VPN จะไม่เร็วเท่ากับ ExpressVPN และ Private Internet Access แต่ความเร็วโดยเฉลี่ยของฉันลดลงเพียง 32% ซึ่งดีกว่าผู้ในบริการอื่น ๆ มากแข่งจำนวนมากและฉันก็ยังสามารถเล่นเกมได้โดยไม่สะดุดในแต่ละเซิร์ฟเวอร์ที่ฉันทดลองใช้ (แม้แต่เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ไกลที่สุด)
ทดลองใช้ CyberGhost VPN เลยตอนนี้
CyberGhost VPN สตรีมมิ่ง: ยอดเยี่ยม
CyberGhost มีเซิร์ฟเวอร์พิเศษที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับสตรีมมิ่งกว่า 80 รายการใน 17 ประเทศ (ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรและประเทศอื่น ๆ ) และแอปจะบอกคุณว่าเซิร์ฟเวอร์ใดเหมาะสำหรับบริการสตรีมมิ่งใด ตัวอย่างเช่น แอปจะบอกคุณว่าเซิร์ฟเวอร์ใดของสหรัฐอเมริกานั้นเหมาะสำหรับการเข้าถึง Hulu และเซิร์ฟเวอร์ใดเหมาะสำหรับ Amazon Prime และเซิร์ฟเวอร์ในอังกฤษเหมาะสำหรับ Netflix UK (มีเซิร์ฟเวอร์ Netflix เฉพาะในมากกว่า 13 ประเทศ) และอื่น ๆ ในการทดสอบของฉัน ฉันสามารถเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งของอเมริกาบนเซิร์ฟเวอร์สตรีมมิ่งของ CyberGhost ได้ และวิดีโอของฉันบน Netflix, Hulu และบริการอื่น ๆ สามารถสตรีมในรูปแบบ HD โดยไม่มีการสะดุด

CyberGhost VPN ทอร์เรนต์: ยอดเยี่ยม
CyberGhost อนุญาตให้ทอร์เรนต์และมีเซิร์ฟเวอร์สำหรับ P2P ในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก ดังนั้นคุณจะพบเซิร์ฟเวอร์ P2P ที่อยู่ใกล้ตำแหน่งจริงของคุณและมีความความเร็วที่รวดเร็วไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ฉันยังชอบที่ CyberGhost VPN แสดงว่าเซิร์ฟเวอร์ P2P นั้นห่างจากคุณเท่าไหร่ เพียงเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้ที่สุด เท่านี้คุณก็จะได้รับความเร็วในการดาวน์โหลดที่ดีที่สุดแล้ว
CyberGhost VPN การหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์: ไม่ดี
CyberGhost ไม่มีเซิร์ฟเวอร์พรางการเชื่อมต่อเหมือนกับ ExpressVPN และ Private Internet Access ซึ่งหมายความว่าบริการนี้อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานในประเทศที่มีการจำกัดการใช้งานอย่างเข้มงวดเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตในประเทศที่มีการจำกัดการใช้งาน แต่ถ้าคุณไม่ได้อาศัยอยู่หรือวางแผนที่จะเดินทางไปยังประเทศที่มีข้อจำกัดทางอินเทอร์เน็ตเหล่านี้ CyberGhost VPN ยังคงเหมาะสำหรับการเล่นเกม สตรีมมิง ทอร์เรนต์และใช้งานได้อย่างเป็นส่วนตัว
ทดลองใช้ CyberGhost VPN เลยตอนนี้
แผนการบริการและราคาของ CyberGhost VPN
CyberGhost VPN นำเสนอแผนบริการที่หลากหลาย รวมถึงแผนรายเดือนที่มีราคาค่อนข้างแพง (US$12.99 / เดือน) และแผนหลายปีที่มีความคุ้มค่าอย่างมาก (US$2.11 / เดือน)แผนหลายปีไม่เพียงแต่มีราคาถูก แผนรายเดือนมีการรับประกันคืนเงิน 14 วัน ในขณะที่แผนระยะยาวมีการรับประกันคืนเงิน 45 วัน CyberGhost รับชำระเงินด้วยบัตรเครดิต PayPal และ Bitcoin
ทดลองใช้ CyberGhost VPN เลยตอนนี้ (ใช้งานโดยไม่มีความเสี่ยงเป็นเวลา 45 วัน)
อ่านรีวิว CyberGhost VPN ตัวเต็ม >
7. PrivateVPN — VPN ที่เหมาะสำหรับการสตรีม

PrivateVPN นั้นรวดเร็ว ปลอดภัยและรองรับการสตรีมได้ดี ฉันทดสอบ PrivateVPN บน Netflix, Hulu และเว็บไซต์สตรีมมิ่งอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง และ PrivateVPN สามารถเข้าถึงบริการทั้งหมดได้ด้วยความเร็วที่รวดเร็วและสม่ำเสมอ ทำให้ฉันสามารถรับวิดีโอในรูปแบบ HD ได้โดยไม่มีการหยุดชะงักใดๆ
PrivateVPN ยังรองรับการทอร์เรนต์บนเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดและสามารถใช้งานได้กับไคลเอนต์ทอร์เรนต์ยอดนิยมทั้งหมด
นอกเหนือจากฟีเจอร์ความปลอดภัยมาตรฐาน เช่น การเข้ารหัส AES 256-bit, โปรโตคอลการเชื่อมต่อที่หลากหลายและ Kill switch แล้ว PrivateVPN ยังมีฟีเจอร์พิเศษเช่น เซิร์ฟเวอร์พรางการเชื่อมต่อสำหรับการหลีกเลี่ยงเทคโนโลยีบล็อค VPN และประเทศที่มีการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตและรองรับเบราเซอร์ Tor เพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งใขขณะใช้งาน ซึ่งต่างจากคู่แข่งชั้นนำอย่าง ExpressVPN และ ProtonVPN เพราะ PrivateVPN ไม่มี split-tunneling
บัญชี PrivateVPN หนึ่งบัญชีครอบคลุม 10 อุปกรณ์ มีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันและมีตัวเลือกการชำระเงินที่ยืดหยุ่น (รวมถึงการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัล)
ทดลองใฃ้ PrivateVPN เลยตอนนี้ (ทดลองใช้ได้โดยไม่มีความเสี่ยง 30 วัน)
ข้อเท็จจริงด้านความปลอดภัยของ PrivateVPN
- เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก: 200+ (รวมถึงในประเทศไทย)
- โปรโตคอล: OpenVPN UDP/TCP, IKEv2/IPSec, L2PT/IPSec, PPTP, SOCKS5, WireGuard
- การเข้ารหัส: 256-bit AES
- เซิร์ฟเวอร์พิเศษ: Obfuscated, Tor over VPN
- การป้องกันการรั่วไหล: DNS, IPv6
- Kill switch: มี
- นโยบายการไม่บันทึกข้อมูล: มี
การทดสอบความเร็วของ PrivateVPN
PrivateVPN มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 200+ แห่งในเครือข่ายทั่วโลก ฉันสุ่มทดสอบเซิร์ฟเวอร์ในแต่ละประเทศมากกว่า 60 ประเทศและตรวจสอบว่าแต่ละเซิร์ฟเวอร์ทำให้การเชื่อมต่อพื้นฐานของฉันช้าลงเพียงใด ฉันเชื่อมต่อกับแต่ละเซิร์ฟเวอร์ในประเทศที่ต้องการเกือบจะในทันที
นี่คือไฮท์ไลท์บางส่วน:
PrivateVPN มีความเร็วที่ดีมาก (โดยเฉพาะโปรโตคอล L2PT) และในระหว่างการทดสอบของฉันความเร็วในการดาวน์โหลดของเซิร์ฟเวอร์ไม่เคยลดลงต่ำกว่า 50% (ความเร็วทั่วไปสำหรับการเชื่อมต่อในต่างประเทศที่มีคุณภาพสูง) PrivateVPN มีโปรโตคอล WireGuard แต่คุณต้องกำหนดค่าลงในอุปกรณ์ของคุณด้วยตนเอง กระบวนการนี้ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที แต่ก็ไม่ได้ทำได้ง่ายนักและอาจดูซับซ้อนเกินไปสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ ฉันชอบ VPN ที่มีโปรโตคอล WireGuard ในแอปให้เลือกใช้ได้ในทันที (เช่น ProtonVPN และ Private Internet Access)
การทดสอบความเร็วของฉันแสดงให้เห็นว่า PrivateVPN สามารถสตรีม ดาวน์โหลดและวิดีโอคอลได้ดีมาก การเชื่อมต่อในบริเวณใกล้เคียงมีการชะลอตัวและการเชื่อมต่อในต่างประเทศมีการชะลอตัวเพียงเล็กน้อย
PrivateVPN สตรีมมิ่ง: ยอดเยี่ยม
PrivateVPN สามารถเข้าถึง Netflix, Hulu, Amazon Prime, BBC iPlayer, Disney + และบริการสตรีมมิ่งอื่น ๆ ในระหว่างการทดสอบ ฉันสามารถเข้าถึงเว็บสตรีมมิ่งยอดนิยมทั้งหมดด้วยความเร็วที่รวดเร็วและสม่ำเสมอ วิดีโอของฉันจึงมีความคมชัดอยู่เสมอ

PrivateVPN ทอร์เรนต์: ยอดเยี่ยม
PrivateVPN รองรับการทอร์เรนต์บนทุกเซิร์ฟเวอร์ (เหมือนกับ ExpressVPN) ฉันสุ่มทดสอบเซิร์ฟเวอร์กับไคลเอนต์ทอร์เรนต์รายใหญ่ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น uTorrent, BitTorrent, Bitport.io และอื่น ๆ อีกมากมายและ PrivateVPN ก็สามารถดาวน์โหลดและแบ่งปันเนื้อหาได้จากทุกไคลเอนต์
ฉันยังทดสอบการรั่วไหล DNS ของ PrivateVPN ผ่าน 10 ครั้งและไม่พบการรั่วไหลของ DNS เลย
PrivateVPN การหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์: ยอดเยี่ยม
PrivateVPN มีฟีเจอร์ “Stealth Mode” ซึ่งเป็นเครื่องมือพรางการรับส่งข้อมูล VPN ของคุณ ดังนั้นจึงสามารถหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตได้ค่อนข้างดี
แผนการบริการและราคาของ PrivateVPN
แผนรายเดือนของ PrivateVPN นั้นมีราคาค่อนข้างแพง แต่แผนบริการหลายปีนั้นเป็นบริการที่มีราคาถูกที่สุดในรายการนี้ มันมีราคาเพียง US$2.00 / เดือน ซึ่งมีราคาถูกกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ PrivateVPN รับบัตรเครดิต 6 ใบ (รวมถึง JCB และ Diner Club International), PayPal และ Bitcoin ทุกแผนมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
ทดลองใช้ PrivateVPN เลยตอนนี้ (ทดลองใช้โดยไม่มีควาเมสี่ยง 30 วัน)
อ่านรีวิว PrivateVPN ตัวเต็ม >
8. [affiliate-link vendor="28049" alooma-button-id="2857871"]TunnelBear — VPN ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้เริ่มต้น
![8. [affiliate-link vendor="28049" alooma-button-id="2857871"]TunnelBear — VPN ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้เริ่มต้น](https://www.safetydetectives.com/wp-content/uploads/2021/03/TunnelBear-VPN.png)
TunnelBear หนึ่งใน VPN ที่ใช้งานง่ายที่สุด – มันใช้งานได้ง่ายมาก (แม้ว่าคุณจะไม่เคยใช้ VPN มาก่อนก็ตาม) และมีการออกแบบที่น่ารักมาก (มีหมีน่ารักอยู่ทั่วทั้งแอป)
TunnelBear มีความปลอดภัยสูง ให้ความเร็วที่เหมาะสมและมีฟีเจอร์ความปลอดภัย VPN มาตรฐานทั้งหมด รวมถึงนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวดซึ่งได้รับการตรวจสอบเป็นประจำทุกปีโดยบริษัทรักษาความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตอิสระ TunnelBear ยังมี Kill switch ฟีเจอร์พรางการเชื่อมต่อและ Split-tunneling สำหรับ Android (ให้คุณสามารถยกเว้นแอปที่เชื่อมต่อได้) และเป็น VPN เดียวในรายการนี้ที่มี Split-tunneling บนแอป iOS (ให้คุณสามารถแยกการเชื่อมต่อเว็บไซต์และโดเมนย่อยจากการเชื่อมต่อผ่านเซิร์ฟเวอร์ได้) นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาฟรีอีกด้วย (สำหรับ Chrome เท่านั้น)
TunnelBear ไม่สามารถปลดบล็อกบริการสตรีมยอดนิยมได้ตลอดเวลาเหมือนที่คู่แข่งระดับชั้นนำอย่างเช่น ExpressVPN และ ProtonVPN TunnelBear ไม่สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งได้อย่างสม่ำเสมอ และฉันค่อนข้างผิดหวังที่ TunnelBear ไม่มีการรับประกันคืนเงิน อย่างไรก็ตามหากคุณสนใจคุณสามารถทดลองใช้ TunnelBear ด้วยแผนบริการฟรี (ใช้ได้เพียง 500 MB ต่อเดือน)
ทดลองใช้งาน TunnelBear เลยตอนนี้
ข้อเท็จจริงด้านความปลอดภัยของ TunnelBear
- เซิร์ฟเวอร์ในทั่วโลก: ไม่รู้
- โปรโตคอล: OpenVPN, IKEv2
- การเข้ารหัส: 256-bit AES
- เซิร์ฟเวอร์พิเศษ: Split-tunneling, เซิร์ฟเวอร์ obfuscated
- การป้องกันการรั่วไหล: DNS, WebRTC, IPv6
- Kill switch: มี
- นโยบายการไม่บันทึกข้อมูล: มี
การทดสอบความเร็วของ TunnelBear
TunnelBear มีเซิร์ฟเวอร์ในมากกว่า 45+ ประเทศ ซึ่งน้อยกว่าบริการพรีเมี่ยมอื่น ๆ รวมถึงExpressVPN, Private Internet Access และCyberGhost VPN CyberGhost VPN อย่างไรก็ตาม เซิฟเวอร์ของ TunnelBear นั้นกระจายอยู่ในทั่วโลกทั้งในอเมริกาเหนือ อเมริกากลางและใต้ ยุโรปและออสเตรเลีย เช่นเดียวกับในสิงคโปร์ ญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์ ฉันได้ลองเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในทุกประเทศเพื่อทดสอบความเร็วของ TunnelBear
นี่คือไฮท์ไลท์บางส่วน:
โดยรวมแล้ว TunnelBear ลดความเร็วในการดาวน์โหลดเฉลี่ย 42% ซึ่งถือว่ายังดีอยู่ แต่น้อยกว่า ExpressVPN, Private Internet Access และ ProtonVPN เมื่อฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในท้องถิ่น (สหรัฐอเมริกา) ความเร็วในการท่องเว็บของฉันยังคงเร็วเกือบจะเท่าตอนที่ไม่มี VPN และฉันก็สามารถสตรีมวิดีโอได้โดยไม่มีอาการล่าช้าเลย (และความเร็วในการอัปโหลดของฉันก็เพิ่มขึ้น!) แต่เมื่อฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในเยอรมนีและในสหราชอาณาจักรความเร็วในการดาวน์โหลดและ ping ของฉันลดลงอย่างมากในระหว่างการใช้งานและสตรีมมิ่ง ความเร็วในการดาวน์โหลดและอัพโหลดของฉันนั้นค่อนข้างดีเมื่อฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ออสเตรเลีย – มันเกือบจะดีพอ ๆ กับตอนที่ฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ภายในประเทศ
ทดลองใช้งาน TunnelBear เลยตอนนี้
TunnelBear สตรีมมิ่ง: ค่อนข้างดี
TunnelBear เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการสตรีม ในการทดสอบของฉัน TunnelBear สามารถเข้าถึง Netflix, Amazon Prime และ Hulu รวมถึงเว็บไซต์ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักได้ เช่น Pluto TV และ Kodi น่าเสียดายที่ TunnelBear ใช้งานไม่ได้กับ Disney+ และ ESPN+
TunnelBear ทอร์เรนต์: ยอดเยี่ยม
TunnelBear อนุญาตให้ทำการ P2P บนเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด เช่นเดียวกับ ExpressVPN แต่เนื่องจาก TunnelBear มีความเร็วไม่มากพอ ฉันขอแนะนำให้คุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์โดยใช้ Fastest Connectionหรือเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในประเทศของคุณที่ใกล้ที่สุดด้วยตนเอง
TunnelBear การหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์: ยอดเยี่ยม
TunnelBear มีเซิร์ฟเวอร์พรางการเชื่อมต่อ (GhostBear) ที่สามารถเปิดใช้งานได้ในคลิกเดียว เช่นเดียวกับ ExpressVPN และ Private Internet Access เซิร์ฟเวอร์พรางการเชื่อมต่อของ TunnelBear สามารถหลีกเลี่ยงการจำกัดการใช้อินเทอร์เน็ตและการบล็อก VPN ได้
ทดลองใช้งาน TunnelBear เลยตอนนี้
แผนการบริการและราคาของ TunnelBear
ไม่เหมือนกับ ProtonVPN ที่นำเสนอข้อมูลการใช้งานไม่จำกัดสำหรับผู้ใช้ฟรี แผนฟรีของ TunnelBear นำเสนอข้อมูล 500 MB ต่อเดือนซึ่งมากพอที่จะทดลองใช้ความเร็วในการใช้งานของ TunnelBear (ไม่เพียงพอสำหรับการสตรีมหรือทอร์เรนต์)
แผน Unlimited แบบพรีเมี่ยมมีตัวเลือกการสมัครสมาชิก 3 ปีและแผนทั้งหมดมาพร้อมกับเชื่อมต่อพร้อมกันสูงสุด 5 อุปกรณ์ แผนพรีเมียมของ TunnelBear นั้นเริ่มต้นที่ US$3.33 / ปี ซึ่งแพงกว่าคู่แข่งบางราย — แต่มันคุ้มค่ากว่า ถ้าคุณกำลังมองหา VPN ที่ใช้งานง่าย (แถมยังมีน้องหมีน่ารักอยู่ในแอปอีกด้วย)
TunnelBear รับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและ Bitcoin (ไม่มี PayPal) และเว็บไซต์ของบริษัทระบุว่าคุณสามารถชำระเงินด้วยน้ำผึ้งได้ (แต่ฉันไม่ได้ทดสอบวิธีนี้!) TunnelBear ไม่มีการรับประกันคืนเงิน
ทดลองใช้งาน TunnelBear เลยตอนนี้
อ่านรีวิว TunnelBear ตัวเต็ม >
9. VyprVPN — เหมาะสำหรับหลีกเลี่ยงการจำกัดการใช้งานอินเตอร์เน็ต (ตัวเลือกที่ดีสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก)

VyprVPNเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในการหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์และการเซ็นเซอร์ — สามารถเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งได้มากกว่า 45 รายการ รวมถึงบริการยอดนิยมทั้งหมด เช่น Netflix และ Amazon Prime และในการทดสอบของฉัน VyprVPN สามารถใช้งานร่วมกับเว็บไซต์สตรีมมิ่งหลักอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสามารถเล่นเนื้อหาได้ทันทีและแทบไม่มีการสะดุดเลย (แม้แต่บนเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลมาก)
VyprVPN มีโปรโตคอล Chameleon ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเองที่สามารถช่วยหลีกเลี่ยงการบล็อก VPN ได้ โปรโตคอลนี้ใช้เพื่อปกปิดการรับส่งข้อมูล VPN ของคุณและให้คุณสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่มีข้อจำกัด
VyprVPN เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่มีธุรกิจ — พวกเขาเป็นเจ้าของและดำเนินการเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดของตน โดยตั้งอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ (ซึ่งมีกฎหมายความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวด) และไม่เก็บบันทึกกิจกรรมทางอินเทอร์เน็ตหรือไฟล์ที่คุณหรือพนักงานของคุณแบ่งปัน
VyprVPN ให้คุณสามารถเชื่อมต่อได้มากถึง 30 อุปกรณ์ มีแผนรายเดือนและรายปีและมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
ทดลองใช้งาน VyprVPN (ใช้งานโดยไร้ความเสี่ยง 30 วัน)
ข้อเท็จจริงด้านความปลอดภัยของ VyprVPN
- เซิร์ฟเวอร์ในทั่วโลก: 700+ (รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ในเอเชีย)
- Protocols: WireGuard, IKEv2/IPSec, OpenVPN, Chameleon (obfuscation)
- การเข้ารหัส: 256-bit AES
- เซิร์ฟเวอร์พิเศษ>: Split-tunneling
- การป้องกันการรั่วไหล: DNS
- Kill switch: มี
- นโยบายการไม่บันทึกข้อมูล>: มี
การทดสอบความเร็วของ VyprVPN
VyprVPN มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ในกว่า 70 แห่งทั่วโลก ฉันทดสอบความเร็วของ VyprVPN โดยเลือกเซิร์ฟเวอร์ในแต่ละตำแหน่งของ VyprVPN
นี่คือไฮท์ไลท์บางส่วน:
VyprVPN นำเสนอความเร็วที่ยอดเยี่ยมให้ฉัน เมื่อฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา ในยุโรปและแม้แต่ในสถานที่ห่างไกล เช่น ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย อย่างไรก็ตามความเร็วของ VyprVPN ลดลงมากกว่าที่ฉันต้องการให้เป็น เมื่อฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในเอเชียและอเมริกาใต้ แต่โดยรวมแล้วความเร็วลดลงโดยเฉลี่ยของฉันอยู่ที่ 21% ซึ่งถือว่าดีทีเดียว
VyprVPN สตรีมมิ่ง: ยอดเยี่ยม
VyprVPN ใช้งานได้กับ Netflix, Hulu, Amazon Prime, AppleTV, BBC iPlayer และ ESPN+ แต่ถ้าคุณเป็นแฟนรายการใน Disney และ Marvel คุณอาจผิดหวังที่ VyprVPN ไม่สามารถเข้าถึง Disney+ หากคุณต้องการเข้าถึง Disney+ ฉันขอแนะนำให้ใช้ VPN ชั้นนำอื่น ๆ เช่น ExpressVPN, Private Internet Access และ ProtonVPN
ในระหว่างการทดสอบ ฉันสามารถเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งทั้งหมดและด้วยความเร็วที่รวดเร็วของ VyprVPN ฉันจึงไม่พบการสะดุดใด ๆ และวิดีโอของฉันสามารถสตรีมได้ในรูปแบบ HD

VyprVPN ทอร์เรนต์: ยอดเยี่ยม
VyprVPN เป็นบริการที่เป็นมิตรกับการทอร์เรนต์และอนุญาตให้แบ่งปันไฟล์ P2P บนเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด ฉันมีความเร็วที่รวดเร็วและประสบการณ์การทอร์เรนต์ที่รวดเร็วและราบรื่นระหว่างการทดสอบ VyprVPN ยังผ่านการทดสอบการรั่วไหลของ DNS ทั้งหมดที่ฉันดำเนินการโดยมีการรั่วไหล 0 ครั้ง
VyprVPN การหลีกเลี่ยงเซ็นเซอร์: ยอดเยี่ยม
VyprVPN มีโปรโตคอลพิเศษที่เรียกว่า Chameleon ซึ่งทำให้ไม่สามารถตรวจจับการรับส่งข้อมูล VPN ของคุณได้ ในขณะที่คู่แข่งบางChameleon จะรีเฟรชหมายเลข IP ของคุณในระหว่างการเชื่อมต่ออยู่ตลอด เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณและการบล็อก IP
แผนการบริการและราคาของ VyprVPN
VyprVPN นำเสนอแผนบริการที่หลากหลาย โดยราคาเริ่มต้นที่ US$5.00 / เดือนน — นี่เป็นหนึ่งในตัวเลือก VPN ที่แพงที่สุดในตลาด แต่เช่นเดียวกับ ExpressVPN และ CyberGhost VPN บริการของ VyprVPN มักจะนำเสนอบริการฟรีเป็นเวลาหลายเดือน ดังนั้นคุณอาจได้รับบริการเพิ่มอีกถึง 12 เดือนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ คุณสามารถชำระเงินด้วยบัตรเครดิต UnionPay และ PayPal (แต่ไม่ใช่สามารถชำระได้ด้วยสกุลเงินดิจิทัล) และทุกแผนมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
VyprVPN มี แผน VyprVPN for Business และ แผน VyprVPN for Business Cloud แผนธุรกิจทั้งสองมาพร้อมกับการทดลองใช้งาน
ทดลองใช้งาน VyprVPN (ใช้งานได้โดยไม่มีความเสี่ยง 30 วัน)
อ่านรีวิว VyprVPN ตัวเต็ม >
10. Mullvad VPN — ความเป็นส่วนตัวสูง + ความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง (และแผนการชำระเงินที่เรียบง่าย)

Mullvad VPN นำเสนอค่าบริการรายเดือนแบบคงที่สำหรับบริการไม่ว่าคุณจะต้องการใช้ VPN เป็นเวลาหนึ่งเดือน หนึ่งปีหรือนานกว่านั้นก็ตาม และ Mullvad ไม่เคยเพิ่มราคาการสมัครสมาชิกรายเดือนนับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2009
เมื่อทำการซื้อบริการ Mullvad จะให้หมายเลขบัญชีแก่คุณเพื่อใช้เป็น ID และรหัสผ่านของคุณ ไม่เหมือนคู่แข่งส่วนใหญ่ที่ขออีเมลหรือข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ของคุณ นอกจากนี้ Mullvad ยังเป็น VPN แบบโอเพนซอร์สและจะไม่บันทึกหรือจัดเก็บกิจกรรมออนไลน์ใด ๆ ของคุณ นอกจากนี้ Mullvad ยังมีความเร็วที่ดี รับรองการทอร์เรนต์และสามารถหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตได้ แต่ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับการสตรีม
Mullvad ช่วยให้คุณเชื่อมต่อ 5 อุปกรณ์พร้อมกันและรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
ทดลองใช้งาน Mullvad VPN (ใช้งานโดยไม่มีความเสี่ยง 30 วัน)
ข้อเท็จจริงด้านความปลอดภัยของ Mullvad VPN
- เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก: 760+
- โปรโตคอล: WireGuard, OpenVPN
- การเข้ารหัส: 256-bit AES
- เซิร์ฟเวอร์พิเศษ: Bridge (Double VPN), Split-tunneling, SOCKS5, Port forwarding
- การป้องกันการรั่วไหล: DNS, IPv6
- Kill switch: มี
- นโยบายการไม่บันทึกข้อมูล:มี
การทดสอบความเร็วของ Mullvad VPN
Mullvad ทำคะแนนได้ดีในการทดสอบความเร็วของฉัน ฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ได้ภายใน 10 วินาทีใน 35 ประเทศที่ Mullvad มีเซิร์ฟเวอร์และความเร็วในการเชื่อมต่อของฉันไม่เคยลดลงเกิน 50%
นี่คือไฮท์ไลท์บางส่วน:
Mullvad มีความเร็วที่ดี อาจจะไม่เร็วเท่ากับ ExpressVPN, Private Internet Access, ProtonVPN หรือ CyberGhost VPN แต่ก็สามารถรักษาความเร็วที่ดีในระหว่างการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ในระยะไกลได้
ทดลองใช้งาน Mullvad VPN เลยตอนนี้
Mullvad VPN สตรีมมิ่ง: ไม่ดี
การสตรีมเป็นหนึ่งในจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของ Mullvad ในการทดสอบของฉัน Mullvad VPN สามารถเข้าถึง Netflix ได้และเพื่อนร่วมงานของฉันจากสหราชอาณาจักรสามารถเข้าถึง BBC iPlayer ได้ แต่เราทั้งคู่ไม่สามารถเข้าถึง Hulu, Disney+ และบริการอื่น ๆ ได้
หากคุณมองหา VPN ที่สามารถเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งหลัก ๆ ได้ทั้งหมด ฉันขอแนะนำให้เลือก ExpressVPN, Private Internet Access หรือProtonVPN

Mullvad VPN ทอร์เรนต์: ยอดเยี่ยม
Mullvad รองรับการแชร์ไฟล์แบบ P2P และทอร์เรนต์บนเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด 760+ เซิร์ฟเวอร์ ระหว่างการทดสอบ ฉันสามารถดาวน์โหลดไฟล์ด้วยความเร็วที่รวดเร็วและ Mullvad ยังมี Split-tunneling ที่ใช้งานได้ง่ายมาก ฉันสามารถแชร์ไฟล์แบบ P2P ผ่าน VPN และใช้งานอินเตอร์เน็ตโดยใช้อินเตอร์เน็ตจาก ISP ของฉันได้
Mullvad VPN การหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์: ค่อนข้างดี
Mullvad ใช้ฟีเจอร์ “Bridge” (double VPN) และพร็อกซี Shadowsocks (พร็อกซีโอเพนซอร์ซที่ออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์อินเทอร์เน็ต) เพื่อให้สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างเป็นอิสระ แม้ว่า ExpressVPN จะมีฟีเจอร์ Obfuscation บนเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด แต่ Mullvad ต้องการให้คุณเลือกตำแหน่ง “Bridge” ของคุณด้วยตนเอง (แต่โหมด “Bridge” มีให้ใช้งานบนเดสก์ท็อปเท่านั้น ไม่มีบนมือถือ)
ทดลองใช้งาน Mullvad VPN เลยตอนนี้
แผนการบริการและราคาของ Mullvad VPN
Mullvad นำเสนอแค่แผนบริการรายเดือนในราคาที่เหมาะสม (US$5.36 / เดือน) — แต่ไม่มีข้อเสนอระยะยาว การชำระเงินของคุณตัดในแต่ละเดือนโดยอัตโนมัติหรือคุณสามารถชำระล่วงหน้าทั้งปีในอัตรารายเดือนเดียวกัน
Mullvad รับบัตรเครดิต, PayPal, เงินสด, การโอนเงินผ่านธนาคารและสกุลเงินดิจิทัล การสมัครใช้งานของคุณมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
ทดลองใช้งาน Mullvad VPN (ใช้งานได้โดยไม่มีความเสี่ยง 30 วัน)
อ่านรีวิว Mullvad VPN ตัวเต็ม >
โบนัส. IPVanish — เชื่อมต่อได้ไม่จำกัด + เหมาะสำหรับทอร์เรนต์

IPVanish เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ VPN ไม่กี่รายที่อนุญาตให้เชื่อมต่อได้ไม่จำกัดและยังเหมาะสำหรับการทอร์เรนต์อีกด้วย ฉันชอบมากที่เซิร์ฟเวอร์มากกว่า 2,000+ เซิร์ฟเวอร์นั้นรองรับการแชร์ข้อมูลแบบ P2P และใช้งานได้กับแอปทอร์เรนต์ชั้นนำอย่าง uTorrent และ Vuze นอกจากนี้ IPVanish ยังมีเซิร์ฟเวอร์ SOCKS5 มากกว่า 25 เซิร์ฟเวอร์ ซึ่งให้การดาวน์โหลดที่เร็วกว่าเซิร์ฟเวอร์ VPN เนื่องจากไม่ได้ใช้การเข้ารหัส (แต่ยังคงเปลี่ยนหมายเลข IP ของคุณ).
นอกจากนี้ IPVanish ยังนำเสนอการรักษาความปลอดภัยที่ดี รวมถึง ฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูง เช่น Perfect Forward Secrecy และแอปยังติดตั้งง่ายและใช้งานได้ง่ายอีกด้วย
IPVanish นั้นไม่เหมาะสำหรับการสตรีม ไม่เหมือนกับบริการคู่แข่งอย่าง ExpressVPN, Private Internet Access และ ProtonVPN
IPVanish นำเสนอแผนรายเดือนและรายปี และแผนบริการรายปียังมีรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันอีกด้วย
ข้อเท็จจริงด้านความปลอดภัยของ IPVanish
- เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก:2,000+
- โปรโตคอล: IKEv2/IPSec, OpenVPN, L2PT/IPSec, IPSec, PPTP, WireGuard
- การเข้ารหัส: 256-bit AES
- Specialty servers: Split-tunneling, SOCKS5
- การป้องกันการรั่วไหล: DNS, IPv6
- Kill switch: มี
- นโยบายการไม่บันทึกข้อมูล: มี
การทดสอบความเร็วของ IPVanish
IPVanish มีมากกว่า 2,000+ เซิร์ฟเวอร์ในกว่า 50 ตำแหน่ง ฉันชอบที่ IPVanish แสดงตัวชี้วัดอย่างจำนวนการใช้งานและ ping ในทุกเซิร์ฟเวอร์ เพราะมันทำให้ง่ายต่อการค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุด
เพื่อทดสอบความเร็วของ IPVanish ฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่มีจำนวนการใช้งานต่ำสุดใน 50 ประเทศ
นี่คือไฮท์ไลท์บางส่วน:
โดยรวมแล้ว ความเร็วของฉันลดลงประมาณ 33% โดยเฉลี่ย ซึ่งเทียบได้กับคู่แข่งชั้นนำอย่าง CyberGhost ดังนั้นหากคุณกำลังมองหา VPN ที่มีความเร็วดี IPVanish เป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียว
แต่ฉันไม่ชอบที่จะต้องรอ 10-30 วินาทีเพื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN บริการชั้นนำอย่าง ExpressVPN ใช้เวลาน้อยกว่า 5 วินาทีในการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ VPN เสมอ
ทดลองใช้งาน IPVanish เลยตอนนี้
IPVanish สตรีมมิ่ง: ค่อนข้างแย่
IPVanish สามารถใช้งานกับ Netflix ได้ แต่ไม่สามารถเข้าถึง Hulu, Disney+ และเว็บสตรีมมิ่งอื่น ๆ มีหลายบริการในรายการนี้ (เช่น ExpressVPN, Private Internet Access และCyberGhost VPN) ที่สามารถให้สตรีมมิ่งได้ดีกว่า
IPVanish ทอร์เรนต์: ยอดเยี่ยม
เซิร์ฟเวอร์ทั้ง 2,000+ เซิร์ฟเวอร์ของ IPVanish รองรับการ P2P-friendly และยังมีพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ SOCKS5 ที่ช่วยให้การดาวน์โหลดเร็วขึ้น เนื่องจากไม่ได้เข้ารหัสข้อมูลของคุณ ฉันทำการทดสอบและมีความเร็วในการดาวน์โหลดเร็วขึ้น 10% เมื่อใช้พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ SOCKS5
IPVanish การหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์: ไม่ดี
น่าเสียดายที่ IPVanish ไม่สามารถใช้งานได้ในประเทศที่มีการจำกัดการใช้งานสูง หากคุณมองหา VPN ที่สามารถหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์และการเซ็นเซอร์ได้อย่างสม่ำเสมอ ฉันแนะนำให้ใช้ ExpressVPN หรือPrivate Internet Access
ทดลองใช้งาน IPVanish เลยตอนนี้
แผนการบริการและราคาของ IPVanish
IPVanish นำเสนอแผนบริการรายเดือนและรายปี มีราคาเริ่มต้นที่ US$2.96 / เดือน แผนรายปีรวมบริการฟรีสำหรับโปรแกรมป้องกันไวรัส VIPRE (ใช้ได้กับ Windows และ macOS เท่านั้น)
IPVanish รับบัตรเครดิตและบัตรเดบิตและ PayPal เป็นรูปแบบการชำระเงิน (ไม่รองรับสกุลเงินดิจิทัล) เมื่อซื้อบริการแผนรายปี คุณจะได้รับการรับประกันคืนเงิน 30 วัน
ทดลองใช้งาน IPVanish (ใช้งานได้โดยไร้ความเสี่ยง 30 วัน)
อ่านรีวิว IPVanish ตัวเต็ม >
ตารางเปรียบ VPN ที่ดีที่สุดในปี 2023
วิธีการ VPN ที่ดีที่สุดในปี 2023
เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะเลือก VPN ที่ใช่สำหรับตัวคุณเอง คุณควรจะทำสิ่งต่อไปนี้:- ตรวจสอบให้แน่ใจว่า VPN มีฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูง ฉันแนะนำเฉพาะ VPN ที่มีฟีเจอร์ความปลอดภัยมาตรฐานอุตสาหกรรมเช่นการเข้ารหัส AES 256-bit โปรโตคอล VPN ที่ปลอดภัย (เช่น OpenVPN และ WireGuard) และ Kill switch (ซึ่งจะป้องกันไม่ให้ข้อมูลอินเทอร์เน็ตของคุณถูกเปิดเผยหาก VPN ของคุณถูกตัดการเชื่อมต่อ) ฉันยังมองหาฟีเจอร์เพิ่มเติมเช่นการ Split-tunneling (ช่วยให้คุณกำหนดเส้นทางการรับส่งข้อมูลบางส่วนของคุณผ่าน VPN และการเชื่อมต่อในพื้นที่ของคุณ) เครื่องมือบล็อกโฆษณาและอื่น ๆ บริการชั้นนำอาจไม่ได้นำเสนอฟีเจอร์เพิ่มเติมเหมือนกันทั้งหมด แต่บริการชั้นนำอย่าง ExpressVPN, Private Internet Access, และ ProtonVPN มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง
- ตรวจสอบนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลของผู้ให้บริการ เพื่อไม่ให้ VPN จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและกิจกรรมทางอินเทอร์เน็ตของคุณ (เว็บไซต์ที่คุณใช้งานและไฟล์ที่คุณแชร์) VPN ต้องมีนโยบายที่เข้มงวด ซึ่งระบุว่าจะไม่บันทึกข้อมูลใด ๆ ของคุณและบริการทั้งหมดที่อยู่ในรายการนี้ก็มีนโยบายที่เข้มงวดและได้รับการตรวจสอบและยืนยันนโยบาย (อย่างเช่น ExpressVPN, Private Internet Access,TunnelBear และVyprVPN) โดยบริการอิสระหรือจากเอกสารของศาลแล้ว
- มองหา VPN ที่มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ทั่วโลก ผู้ให้บริการ VPN ที่ดีควรมีเซิร์ฟเวอร์อย่างน้อยหลายร้อยเซิร์ฟเวอร์ที่กระจายอยู่ทั่วโลก ยิ่งมีเซิร์ฟเวอร์ VPN กระจายในตำแหน่งต่าง ๆ มากเท่าใด การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็จะยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น เมื่อ VPN มีเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากมันก็จะช่วยลดความแออัดบนเซิร์ฟเวอร์ได้และทำให้มีความเร็วที่ดีขึ้น
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่า VPN มีความเร็วสูง VPN ทุกตัวจะทำให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณช้าลง แต่ VPN ที่ดีจะลดความเร็วได้น้อยที่สุดแม้ว่าคุณจะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลก็ตาม VPN ในรายการนี้ลดความเร็วของฉันไม่เกิน 50% – VPN ที่เร็วที่สุด (อย่างเช่น ExpressVPN และ Private Internet Access) ทำให้การเชื่อมต่อของฉันช้าลงโดยเฉลี่ยเพียง 15-25% ซึ่งถือว่าเป็นบริการที่ดี แม้ในกรณีที่ความเร็วลดลงอย่างมาก ฉันก็สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ต สตรีมวิดีโอหรือดาวน์โหลดไฟล์ด้วยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วและเสถียรกับ VPN ทั้งหมดในรายการนี้
- ตรวจสอบความสามารถในการสตรีม การโหลด torrent และการหลบหลีกการเซ็นเซอร์ VPN ที่ดีควรช่วยให้คุณเข้าถึงบริการสตรีมมิ่ง ดาวน์โหลดไฟล์ได้อย่างปลอดภัยและหลีกเลี่ยงข้อจำกัดบนอินเทอร์เน็ตในประเทศที่มีการจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ตได้ VPN บางตัวในรายการนี้ใช้ไม่ได้กับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งบางอันหรือในประเทศที่มีข้อจำกัดทางอินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวด แต่ VPN ระดับชั้นนำ (อย่างเช่น ExpressVPN, Private Internet Access และ ProtonVPN) นั้นเหมาะสำหรับการสตรีม ทอร์เรนต์และหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์และข้อจำกัดทางอินเทอร์เน็ต
- เลือกผู้ให้บริการที่มีความคุ้มค่าโดยรวมสูง ตัวเลือกทั้งหมดของฉันอนุญาตให้คุณเชื่อมต่อ 5-10 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกันภายใต้บัญชีเดียว — และบางบริการ (อย่างเช่น IPVanish และ CactusVPN) นำเสนอการเชื่อมต่อพร้อมกันไม่จำกัดอุปกรณ์ VPN ส่วนใหญ่นำเสนอแผนการสมัครสมาชิกรายเดือนและรายปีตัวเลือกการชำระเงินที่ยืดหยุ่น (รวมถึงสกุลเงินดิจิทัล) และการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน (CyberGhost ยังมีการรับประกันคืนเงิน 45 วันอีกด้วย)
วิธีการเลือก VPN ที่ดีที่สุดสำหรับระบบปฏิบัติการของคุณ
แม้ว่า VPN ทั้งหมดในรายการนี้จะมีแอปที่ปลอดภัย ติดตั้งง่ายและใช้งานง่ายสำหรับระบบปฏิบัติการต่าง ๆ แต่แอป VPN บางตัวก็ดีกว่าแอปอื่น ๆ อย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น บาง VPN มีแอป Windows ที่ยอดเยี่ยม แต่แอป iOS ขาดฟีเจอร์สำคัญมากมาย ดังนั้นคุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า VPN ที่คุณซื้อมีแอปที่ดีสำหรับอุปกรณ์เครื่องที่คุณวางแผนจะติดตั้ง
ฉันทดสอบแอป Android, iOS, Windows และ Mac กับ VPN ทุกรายการในรายการนี้ นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณต้องพิจารณาในการเลือก VPN สำหรับแต่ละระบบปฏิบัติการ:
- VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Windows แอป Windows ของ VPN มักเป็นแอปที่มีฟีเจอร์หลากหลายและใช้งานได้ง่ายที่สุด อุปกรณ์ Windows ใช้งานได้กับเครื่องมือ VPN มากมาย ดังนั้นคุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า VPN มีฟีเจอร์ที่จำเป็น รวมถึงอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย Kill switch โปรโตคอลที่รวดเร็วและปลอดภัยและ Split-tunneling ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ Windows ก็คือ ExpressVPN
- VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Mac แอปสำหรับ Mac มักจะมาพร้อมกับฟีเจอร์มากมายเช่นเดียวกับแอป Windows แต่มีข้อแตกต่างบางอย่างเช่น แอป VPN สำหรับ Mac จำนวนมากไม่มีโปรโตคอลที่เร็วที่สุด การป้องกันการรั่วไหลของ IP และ Split-tunneling แอป VPN สำหรับ Mac ที่ฉันชอบที่สุดคือ ExpressVPN และ Private Internet Access
- VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Android มีแอป VPN สำหรับ Android จำนวนมากที่ใช้งานไม่ได้ ไม่มีฟีเจอร์ที่ควรมีและมีการออกแบบที่ใช้งานได้ยาก ทำให้การใช้ VPN ในขณะเดินทางทำได้ยากเข้าไปอีก โชคดีที่ VPN ชั้นนำอย่าง ExpressVPN และ ProtonVPN มีแอป Android ที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ
- VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ iOS เป็นเรื่องปกติที่แอป VPN สำหรับ iOS จะนำเสนอฟีเจอร์น้อยกว่าระบบปฏิบัติการชั้นนำทั้งหมด เนื่องจากข้อจำกัดของ Apple ในอุปกรณ์มือถือ แต่ก็ยังมีแอพ VPN iOS ที่ดีที่มีฟีเจอร์ iOS ที่ไม่ค่อยมีใครนำเสนออย่าง Kill switch และเครื่องมือบล็อกมัลแวร์ เราจัดอันดับ ExpressVPN และ Private Internet Access เป็นสำหรับแอป iOS อันดับ #1 และ #2 ของเรา
บริการจากบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ไม่ติดโผของฉัน:
- Hotspot Shield. Hotspot Shield นั้นเป็น VPN ที่ดีสำหรับใช้สตรีมมิ่งและโหลด torrent มันมีความเร็วสูงพร้อมเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม มันยังขาดฟีเจอร์ความปลอดภัยสำคัญ ๆ และการป้องกันการรั่วไหล IPv6 และ WebRTC ก็ใช้งานได้เฉพาะกับ Windows เท่านั้น และมันก็ไม่ค่อยสามารถหลบหลีกไฟร์วอลล์ในประเทศที่มีการจำกัดอย่างเช่นจีนได้ดีนัก โดยรวมแล้ว มันไม่คุ้มค่าเท่ากับ VPN ตัวอื่น ๆ ในรายการนี้
- HMA VPN มีความปลอดภัย มีความเร็วที่ดีและรองรับการทอร์เรนต์บนเซิร์ฟเวอร์ P2P แต่อย่างไรก็ตาม HMA VPN ไม่สามารถเข้าถึงเว็บสตรีมมิ่งยอดนิยมหลายบริการ เช่น Netflix และ Disney+ และใช้งานไม่ได้ในประเทศที่มีข้อจำกัด การสนับสนุนลูกค้าแย่มากและมีราคาแพงอีกต่างหาก
- Hola VPN เป็น P2P VPN ฟรีที่มีความเร็วสูง แต่มีประวัติการทำหมายเลข IP ของผู้ใช้รั่วไหล เก็บบันทึกและไม่ใช้การเข้ารหัส และเนื่องจาก Hola เป็น P2P VPN นั่นหมายความว่าคุณจะใช้หมายเลข IP ของผู้ใช้รายอื่นและหมายเลข IP ของคุณก็ถูกกำหนดให้กับผู้ใช้คนอื่นด้วย ดังนั้นผู้ไม่หวังดีสามารถใช้หมายเลข IP ของคุณเพื่อทำกิจกรรมผิดกฎหมายได้
คำถามที่พบบ่อย
VPN ที่ดีที่สุดใน2023 คืออะไร
ExpressVPN เป็นตัวเลือก VPN อันดับ #1 ใน 2023 มีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่รวดเร็วขนาดใหญ่ ใช้งานได้ง่ายมากและมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม (บริการเข้ารหัส DNS ของตัวเอง เทคโนโลยี TrustedServer และโปรโตคอลที่ปลอดภัยและรวดเร็วเป็นพิเศษอย่าง “Lightway”) รักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ด้วยนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด อนุญาตให้ผู้ใช้ชำระเงินด้วยสกุลคริปโตและเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดทำงานบน RAM (ไม่ใช่ฮาร์ดไดรฟ์) ดังนั้นหน่วยความจำจึงถูกล้างบ่อยครั้ง ช่วยให้คุณสามารถสตรีมในรูปแบบ HD บนเว็บสตรีมมิ่งยอดนิยมทั้งหมด รองรับการรับส่งข้อมูลแบบ P2P บนเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดและหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์ในประเทศที่มีข้อจำกัดได้ คุณสามารถเชื่อมต่อได้มากถึง 5 อุปกรณ์ในครั้งเดียว ExpressVPN นำเสนอการการันตีคืนเงิน 30 วัน
แต่ VPN ทั้งหมดในรายการนี้ให้บริการได้ดีมาก
Private Internet Access เป็น VPN ที่ยอดเยี่ยมรอบด้าน — ปลอดภัย รวดเร็วและใช้งานง่ายมาก เหมาะสำหรับการสตรีมและทอร์เรนต์ ProtonVPN ก็มีฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวมากมาย (มีโปรโตคอล Secure Core VPN และ Perfect Forward Secrecy) เพื่อให้ข้อมูลผู้ใช้ปลอดภัยและ CyberGhost เองก็มอบประสบการณ์การใช้งาน การสตรีม ทอร์เรนต์และการเล่นเกมที่ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน หากคุณไม่เคยใช้ VPN มาก่อนคุณจะต้องชอบ อินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานง่ายของ TunnelBear
และอีกครั้ง VPN ระดับชั้นนำทั้งหมดเป็น VPN ที่ดีที่สุด ดังนั้นการได้รับ VPN ที่เหมาะสำหรับคุณจึงเป็นเรื่องสำคัญ
VPNs ปิดกฎหมายหรือเปล่า
VPN ถูกกฎหมายในประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก อย่างไรก็ตามมีไม่กี่ประเทศที่ห้ามใช้ VPN รวมถึงจีน อิหร่าน รัสเซีย อิรัก เบลารุส เกาหลีเหนือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเวเนซุเอลา หากคุณใช้ VPN ในประเทศที่ไม่อนุญาตให้ใช้ VPN คุณอาจทำผิดกฎหมาย และหากถูกจับได้คุณอาจถูกดำเนินคดี
หากคุณวางแผนที่จะอาศัยหรือเดินทางไปยังประเทศที่มีการจำกัดการเข้าถึงเนื้อหา คุณควรซื้อ VPN ทันทีเพราะคุณอาจไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของ VPN จากภายในประเทศนั้นได้ ExpressVPN นั้นเหมาะสำหรับใช้หลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์และข้อจำกัดบนอินเตอร์เน็ต
ในประเทศที่ VPN ถูกกฎหมายการใช้ VPN เพื่อมีส่วนร่วมในกิจกรรมอาชญากรรมถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ตราบใดที่คุณปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นทั้งหมด VPN เป็นเครื่องมือที่ปลอดภัยและถูกกฎหมายอย่างสมบูรณ์ เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัวและความคล่องตัวให้กับการใช้งานอินเตอร์เน็ตของคุณ
การใช้ VPN ขัดต่อ “ข้อกำหนดในการให้บริการ” ของ Netflix หรือไม่
นี่เป็นคำถามที่ยุ่งยากและคำตอบคือใช่และไม่ใช่
ในข้อกำหนดและเงื่อนไขของ Netflix ระบุว่า:
“คุณสามารถดูเนื้อหา Netflix ได้โดยเฉพาะในประเทศที่คุณสร้างบัญชีของคุณและเฉพาะในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่เราให้บริการและได้รับอนุญาตให้แสดงเนื้อหาดังกล่าว”
ดังนั้นหากคุณอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาและเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ของสหรัฐอเมริกาเพื่อรับชม Netflix แสดงว่าคุณอยู่ในขอบเขตของข้อกำหนดในการให้บริการของบริการสตรีมมิง อย่างไรก็ตามหากคุณเดินทางในประเทศอื่นนอกเหนือจากประเทศที่คุณได้สร้างบัญชีไว้ ดูเหมือนว่าการใช้ VPN เพื่อเข้าถึงเนื้อหาในประเทศบ้านเกิดของคุณจะได้รับอนุญาต Netflix ยังบอกด้วยว่าคุณสามารถรับชมเนื้อหาในประเทศได้ (เช่น หากคุณลงทะเบียนบัญชี Netflix ในสหรัฐอเมริกาและเดินทางไปเยอรมนี คุณสามารถเข้าถึง Netflix ของสหรัฐอเมริกา + เยอรมันได้)
VPN บางบริการนั้นใช้เพื่อเข้าถึง Netflix (และเว็บสตรีมมิ่งยอดนิยมอื่น ๆ) ได้ดีกว่า VPN ชั้นนำ ของฉันนั้นยอดเยี่ยมสำหรับการสตรีม ExpressVPN, Private Internet Access และ ProtonVPNนั้นสามารถนำเสนอการสตรีมที่รวดเร็วและไม่สะดุดบน Netflix, Hulu และ Amazon Prime ในระหว่างการทดสอบได้
VPN ปกป้องคุณบนอินเตอร์เน็ตได้ยังไง
VPN ปกป้องคุณได้สองทาง วิธีที่ง่ายที่สุดคือการกำหนดเส้นทางการรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตของคุณผ่านเซิร์ฟเวอร์ของตัวเอง แทนที่จะใช้ผ่านเครือข่ายท้องถิ่นของคุณหรือฮอตสปอต Wi-Fi สาธารณะซึ่งจะเป็นการปิดบังว่าการรับส่งข้อมูลของคุณมาจากที่ใด
VPN ยังเข้ารหัสการรับส่งข้อมูลทั้งหมดนี้ในอุโมงค์ซึ่งบดบังเนื้อหาการใช้งานทั้งหมดของคุณ VPN ช่วยรักษาความปลอดภัยของคุณจากผู้สอดแนมอย่าง แฮกเกอร์ VPN ทั้งหมดในรายการนี้สามารถทำสิ่งนี้ได้
การใช้ VPN ปลอดภัยหรือเปล่า
ใช่ VPN ที่ดีมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยมากมายที่จะปกป้องข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของคุณ
บริการ VPN ชั้นนำทั้งหมดในปี 2023 มาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัย VPN มาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น การเข้ารหัส AES 256-bit (การเข้ารหัสแบบเดียวกับที่ธนาคารและกองทัพใช้) Kill switch (จะตัดการเชื่อมต่อจากอินเทอร์เน็ตโดยอัตโนมัติหากการเชื่อมต่อ VPN ของคุณยุติลงเพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล) การป้องกัน DNS WebRTC และการรั่วไหลของ IPv6 และนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด (เพื่อป้องกัน VPN จากการบันทึกเว็บไซต์ที่คุณเยี่ยมชมและไฟล์ที่คุณดาวน์โหลด) และ VPN อย่าง ExpressVPN และ v มีการตรวจสอบจากบริษัทอิสระเพื่อตรวจสอบนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลบันทึก ขณะที่บริการอื่น ๆ เช่น และ CyberGhost VPN ได้เผยแพร่รายงานความโปร่งใสเพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขาไม่ได้จัดเก็บหรือแบ่งปันข้อมูลผู้ใช้
VPN ที่มีคุณภาพส่วนใหญ่ยังมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยขั้นสูง เช่น เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ RAM เท่านั้น (ข้อมูลจะไม่ถูกเก็บไว้ในฮาร์ดไดรฟ์) และ Perfect Forward Secrecy (เปลี่ยนคีย์การเข้ารหัสของคุณตลอดเวลาเพื่อป้องกันการแฮ็กคีย์ของแซสชั่นในอนาคตหรือในอดีต) และมาพร้อมกับฟีเจอร์พิเศษที่ยอดเยี่ยม เช่น เครื่องมือบล็อกมัลแวร์และ Split-tunneling
VPN ราคาเท่าไหร่
การสมัครสมาชิก VPN มีค่าใช้จ่ายเพียง $2 ต่อเดือนหรือมากถึง $15 ต่อเดือน ขึ้นอยู่กับแผนที่คุณเลือก แผนระยะยาว (แผน 1- 2 และ 3 ปี) เสนอราคาที่คุ้มค่าที่สุดและถูกที่สุด ในขณะที่แผนรายเดือนมีราคาสูงกว่า
ยกตัวอย่างเช่น Private Internet Accessมีแผนที่ถูกที่สุด แผน 1 เดือนนั้นมีราคาค่อนข้างแพง (แต่ยังคงเทียบได้กับ VPN ชั้นนำอื่น ๆ ) แต่แผนระยะยาวนั้นถูกกว่ากันมากพอสมควรUS$2.11 / เดือน ExpressVPNมีราคาเริ่มต้นที่ US$6.67 / เดือน มันสูงกว่าราคาปกติเล็กน้อย แต่ให้ความคุ้มค่าที่ยอดเยี่ยมและแผนระยะยาวมักจะให้คุณใช้งานได้ฟรีเพิ่มอีกหลายเดือน หากคุณกำลังมองหา VPN ราคาประหยัดที่ดีที่สุดในตลาดดูตัวเลือกที่ดีที่สุดของเราได้ที่นี่
VPN คุ้มค่าแค่ไหน
คุ้มค่า 100%! VPN ชั้นนำเสนอความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัวและความคุ้มค่าที่ยอดเยี่ยมในราคาที่เหมาะสม บริการ VPN ที่ฉันชอบที่สุดใน 2023 คือExpressVPN และ Private Internet Access ที่ทั้งปลอดภัย รวดเร็ว สามารถเข้าถึงบริการสตรีมมิงชั้นนำทั้งหมด (รวมถึง Netflix) อนุญาตให้ทอร์เรนต์ มีแอปที่ใช้งานง่ายสำหรับเกือบทุกอุปกรณ์และมีราคาที่ไม่แพง
อีกทางเลือกหนึ่งที่คุณมีคือใช้ VPN ฟรี แต่ฉันไม่แนะนำจริง ๆ บริการ VPN ฟรีส่วนใหญ่มีขีดจำกัดปริมาณข้อมูลที่คุณสามารถใช้ในแต่ละวันหรือเดือน ลดความเร็วของคุณ จำกัดจำนวนเซิร์ฟเวอร์และประเทศที่คุณสามารถเข้าถึงได้ อาจนำเสนอโฆษณาหรือแม้แต่ขายข้อมูลของคุณ (เว็บไซต์ที่คุณเยี่ยมชมและผลิตภัณฑ์ที่คุณซื้อ) แก่บุคคลภายนอกเพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณา
ถ้าคุณมองหา VPN ฟรี ฉันแนะนำให้เลือกแผนฟรีของ ProtonVPN ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่นำเสนอข้อมูลไม่จำกัด ทำให้สามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์ และมีความเร็วที่รวดเร็ว (แต่ไม่รองรับการสตรีมหรือทอร์เรนต์)