ผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดสำหรับองค์กรประจำปี 2024
อ้างอิงตามเว็บไซต์ของ Keeper 81% สาเหตุของการละเมิดในบริษัทคือรหัสผ่านที่อ่อนแอ สิ่งนี้ทำให้บริษัทสูญเสียเงินเฉลี่ยแล้ว 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในแต่ละครั้ง ไม่มีใครอยากเผชิญหน้ากับเหตุการณ์นี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีโซลูชั่นง่ายๆ ในการป้องกัน โซลูชั่นดังกล่าวมีชื่อว่าผู้จัดการรหัสผ่าน
ผู้จัดการรหัสผ่านจะเก็บข้อมูลสำคัญทั้งหมดอย่างรหัสผ่าน ตัวตน ข้อมูลทางการเงินและอื่นๆ อีกมากมาย พวกเขาจะทำให้แน่ใจว่าคุณหรือพนักงานของคุณจะไม่ต้องจำรหัสผ่านหรือข้อมูลอื่นๆ เพราะพวกเขามีซอฟต์แวร์ที่ปลอดภัยคอยจัดเก็บและกรอกแบบฟอร์มให้แทน บางซอฟต์แวร์ก็มาพร้อมกับฟีเจอร์เสริมด้วย เช่น เครือข่ายส่วนตัวเสมือน คู่มือการใช้งานและแม้กระทั่งบริการแชทเข้ารหัส
ไม่ว่าบริษัทของคุณจะมีขนาดใหญ่แค่ไหนก็ตาม การมีพนักงาน 10 หรือหนึ่งร้อยคนก็เพียงพอที่ผู้จัดการรหัสผ่านจะเป็นซอฟต์แวร์ที่คุณจะอยากลงทุนซื้อ ไม่เพียงแต่มันช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับธุรกิจและพนักงานของคุณเท่านั้น แต่มันยังแบ่งเบาภาระบนไหล่ของคุณด้วยโดยคุณสามารถจัดการข้อมูลของคุณได้ในระดับส่วนบุคคล
เพื่อช่วยคุณค้นหาผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดสำหรับองค์กร ฉันได้มองหาตัวเลือกยอดนิยมและจัดทำรายการด้านล่างนี้ มีบทสรุปของแต่ละซอฟต์แวร์ด้วยดังนั้นคุณสามารถเข้าใจได้ง่ายๆ ว่าพวกเขามีอะไรให้บ้างและแต่ละซอฟต์แวร์สามารถสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจองค์กรของคุณได้มากแค่ไหน
เราให้คะแนนผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดสำหรับองค์กรประจำปี 2024 อย่างไร
หลังจากตรวจสอบผู้จัดการรหัสผ่านสำหรับองค์กรทั้งหมดนี้ มันเป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องทราบว่าเราให้คุณค่ากับแต่ละซอฟต์แวร์อย่างไร นี่คือวิธีที่ SafetyDetective ให้คะแนนผู้จัดการรหัสผ่านต่างๆ:
- ชุดฟีเจอร์: พวกเขามีฟีเจอร์อะไรให้บ้าง? มีกี่ฟีเจอร์ที่มีให้บริการในแผนฟรีและมีกี่ฟีเจอร์ในแผนที่คุณต้องจ่ายเงินซื้อ?
- ความปลอดภัย: ผู้จัดการรหัสผ่านมีความปลอดภัยที่เหมาะสมหรือไม่? หากเป็นเช่นนั้นแล้วมันทำงานอย่างไร?
- ราคา: มีช่องทางการชำระเงินต่างๆ มากมายสำหรับผู้จัดการรหัสผ่าน บางโปรแกรมอาจให้ฟีเจอร์ที่กว่าคู่แข่ง แต่การรู้ว่าราคาที่จ่ายไปนั้นคุ้มค่ากับสินค้าที่ได้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรู้
ผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดสำหรับองค์กรปี 2024 – อัพเดทแล้ว
1. Dashlane – ฟีเจอร์ Smart Space ดีที่สุด
ทำไมเราถึงชอบ
ผู้จัดการรหัสผ่าน Dashlane เป็นซอฟต์แวร์ที่ดีด้วยเหตุผลมากมาย แต่บ่อยครั้งที่ธุรกิจเรื่องใช้ซอฟต์แวร์นี้เพราะอินเตอร์เฟซผู้ใช้งานที่ยอดเยี่ยมซึ่งใครๆ ก็สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ ไม่เพียงแต่ใช้งานง่ายเท่านั้น แต่ผู้จัดการรหัสผ่านยังมาพร้อมกับตัวเลือกในการแชร์ที่น่าทึ่งควบคู่กับออโต้ฟิลมาตรฐานและฟีเจอร์บันทึกอัตโนมัติซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาของทุกคน
สิ่งที่คุณควรรู้
ข้อดีเกี่ยวกับธุรกิจ Dashlane คือมันจะแยกข้อมูลที่จัดเก็บออกเป็นสองส่วน ได้แก่ ธุรกิจและส่วนตัวผ่านฟีเจอร์ Smart Space นั่นหมายความว่าพนักงานสามารถจัดเก็บรหัสผ่านเฉพาะที่เกี่ยวกับงานของพวกเขาได้โดยที่ไม่ต้องแบ่งปันกับผู้อื่นในขณะที่ข้อมูลส่วนกลางธุรกิจสามารถแจกจ่ายให้กับทุกคนได้
มันทำงานอย่างไร
ฟีเจอร์ธุรกิจของ Dashlane ติดตั้งได้ง่าย สิ่งที่คุณต้องทำคือดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ตามปกติ จากนั้นพนักงานจะสามารถสร้างบัญชีของพวกเขาได้ มีแผงควบคุมบริหารจัดการสำหรับผู้ดูแลที่จะสามารถตรวจสอบได้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น จัดการกับพนักงานและอื่นๆ อีกมากมาย แถมหากคุณมีพนักงานมากกว่า 50 คน คุณจะได้รับสิทธิ์เข้าถึง Customer Success Manager ได้ซึ่งจะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นสำหรับธุรกิจของคุณ
2. RoboForm – แผงควบคุมบริหารจัดการที่ดีที่สุด
ทำไมเราถึงชอบ
RoboForm เป็นทางเลือกที่ดีอยู่แล้วสำหรับโซลูชั่นรหัสผ่านส่วนบุคคล แต่แผนให้บริการธุรกิจนั้นดียิ่งกว่า เมื่อสมัครเข้าใช้งาน ซอฟต์แวร์จะมาพร้อมกับแผงควบคุมจัดการซึ่งช่วยให้ผู้ดูแลสามารถนำเข้าพนักงานใหม่ เลือกว่าพวกเขาสามารถและไม่สามารถควบคุมอะไรได้บ้างและอื่นๆ
ผู้จัดการรหัสผ่านจะแยกรหัสผ่านส่วนบุคคลและรหัสผ่านบริษัท ไฟล์และตัวตน แถมธุรกิจ RoboForm ยังสามารถใช้ได้กับทุกอุปกรณ์ผ่านเว็บไซต์แม้ว่าคุณจะสามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์เพื่อให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิมก็ตาม
สิ่งที่คุณควรรู้
คุณสามารถทดลองใช้ RoboForm สำหรับธุรกิจของคุณได้ด้วยเวอร์ชั่นฟรี 14 วันซึ่งรองรับพนักงานได้สูงสุด 30 คน จากตรงนี้คุณจะต้องจ่ายเงินรายปีต่อผู้ใช้งาน มันอาจเป็นค่าธรรมเนียมล่วงหน้าที่มีราคาแพงเล็กน้อย แต่ก็คุ้มค่า ไม่เพียงแต่คุณจ่ายเงินซื้อแค่ซฮฟต์แวร์เท่านั้น แต่ยังรวมวีดีฝึกอบรมและฟีเจอร์การทำงานอื่นๆ ด้วย
มันทำงานอย่างไร
บัญชีส่วนบุคคล RoboForm ใดๆ ก็ตามสามารถโอนย้ายเป็นธุรกิจได้ หลังจากดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วขั้นตอนการทำงานรวมถึงการส่งคำเชิญไปให้กับพนักงานผ่านทางอีเมล การเลือกคำอนุญาตจากกลุ่มต่างๆ ที่คุณสร้างและขั้นตอนการทำงานของพนักงานจากที่นี่
3. LastPass – นโยบายการดำเนินการที่ดีที่สุด
ทำไมเราถึงชอบ
LastPass เป็นหนึ่งในผู้จัดการรหัสผ่านที่เป็นมิตรกับผู้ใช้มากที่สุดในตลาดอยู่แล้วเพราะอินเตอร์เฟซที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี ความสามารถของออโต้ฟิลและความช่วยเหลือทางด้านเทคนิค แต่เมื่อพูดถึงแผนให้บริการสำหรับธุรกิจ LastPass ทำได้ดียิ่งกว่า
การอัพเกรดจะมาพร้อมแดชบอร์ดบริหารจัดการ – พื้นที่ที่คุณสามารถดูคะแนนรหัสผ่านของพนักงาน จัดระเบียบกลุ่มที่ใช้ร่วมกัน ดูบันทึกกิจกรรมและอื่นๆ อีกมากมาย จากที่นี่คุณสามารถจัดการได้ว่าพนักงานคนไหนมีการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน บังคับใช้รหัสผ่านมาสเตอร์และทำให้แน่ใจว่าพนักงานแต่ละคนมีตู้นิรภัยส่วนบุคคลของเขาเองที่นอกเหนือจากตู้นิรภัยสำหรับธุรกิจที่ใช้ร่วมกัน
สิ่งที่คุณควรรู้
แผนให้บริการ LastPass Enterprise รองรับผู้ใช้โดยไม่จำกัดและยังมีทีมบริการลูกค้าเฉพาะที่คุณสามารถเข้าถึงได้ทุกเมื่อหรือหากคุณมีทีมงานที่มีพนักงานน้อยกว่า 50 คน ก็มีแผนให้บริการ Team ซึ่งคุณสามารถทดสอบได้ก่อนที่จะเปลี่ยนไปเป็น Enterprise อย่าลืมตรวจสอบสิ่งที่คุณได้รับในแผนให้บริการเพราะทั้งสองแผนให้บริการนั้นจะเรียกเก็บคุณรายปีต่อผู้ใช้
มันทำงานอย่างไร
การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็วและง่ายดายกับ LastPass Enterprise ข้อดีคือซอฟต์แวร์นี้รองรับไดเรกทอรี่การทำงานยอดนิยมมากมายเช่น Microsoft, Okta, OneLogin และอื่นๆ อีกมากมาย จากนั้นเมื่อใดก็ตามที่พนักงานสร้างบัญชีด้วย API เหล่านี้ พวกเขาจะมีบัญชีที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อพวกเขาโดยอัตโนมัติ การย้อนกลับก็สามารถทำได้ง่ายๆ หากคุณต้องการหยุดการทำงานของพนักงาน คุณสามารถคลิกที่ปุ่มได้ง่ายๆ
4. Keeper – โมดูลเสริมที่ดีที่สุด
ทำไมเราถึงชอบ
แผนให้บริการทั่วไปของ Keeper นั้นเต็มไปด้วยฟีเจอร์มากมายซึ่งเป็นจุดขายที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นคุณจึงสามารถมั่นใจได้ว่าเวอร์ชั่น Enterprise นั้จะมาพร้อมกับบางสิ่งที่มากกว่า เมื่ออัพเกรดแผนให้บริการนี้ คุณจะสามารถปรับแต่งตำแหน่งของพนักงานและผู้ดูแลต่างๆ
ได้ ตำแหน่งประกอบไปด้วยว่าใครที่มีสิทธิ์เหนือการตรวจสอบรหัสผ่าน 2FA และใครที่สามารถจัดการการเข้าถึงส่วนต่างๆ ได้ นอกจากนี้ยังมีใครบางที่มีอำนาจในการดูการวิเคราะห์เชิงลึก เครื่องมือตรวจสอบและแม้กระทั่งรายงาน มีบันทึกกิจกรรมที่ยอดเยี่ยม แยกตู้นิรภัยสำหรับธุรกิจและส่วนตัวและแผนให้บริการดังกล่าวยังมาพร้อมกับ API สำหรับนักพัฒนาเพื่อให้การผสานรวมในซอฟต์แวร์ธุรกิจเป็นเรื่องง่าย
สิ่งที่คุณควรรู้
นอกจากแผนให้บริการ Keeper Enterprise แล้วก็คือบริการ KeeperChat นี่เป็นแพลตฟอร์มพูดคุณที่เข้ารหัสสำหรับพนักงานทุกคนในการสื่อสาร มันเป็นแอนออนเสริม อย่างไรก็ตามโปรดทราบว่าเมื่อซื้อแผนให้บริการ มันมีโมดูลการทำงานที่ช่วยฝึกอบรบพนักงานใหม่และมาพร้อมกับสมาชิกทีมบริการลูกค้าเฉพาะอีกด้วยด้วย
มันทำงานอย่างไร
เมื่อลงทะเบียบใช้งาน Keeper Enterprise โดยทางเทคนิคแล้วคือคุณอัพเกรดจากแผนให้บริการ Keeper Business ดังนั้นหากคุณเคยใช้งานมาก่อน คุณก็สามารถจัดการทุกอย่างได้เลย หากไม่ คุณอาจต้องซื้อโมดูลการทำงานและ KeeperChat เพื่อให้ทุกอย่างง่ายขึ้นเล็กน้อยสำหรับตัวคุณและพนักงาน
ด้วยวิธีดังกล่าว พนักงานของคุณจะใช้เวลาในการศึกษาวิธีจัดการกับรหัสผ่านน้อยลงและมีเวลาทำในสิ่งที่พวกเขาได้รับเงินค่าจ้างให้ทำมากขึ้น
5. CyberArk Enterprise Password Vault – การจัดการคำอนุญาตที่ดีที่สุด
ทำไมเราถึงชอบ
Enterprise Password Vault ของ CyberArk ให้ฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์มากมายสำหรับองค์กร เช่น พื้นที่จัดเก็บคลาวด์ส่วนกลางที่ปลอดภัย รายงานการตรวจสอบและการจัดการคำอนุญาตบัญชี ซอฟต์แวร์มีความภูมิใจในตัวเองในการให้การควบคุมการเข้าถึงเชิงลึกได้และคอยตรวจสอบบัญชีที่เชื่อมต่ออย่างสม่ำเสมอเพื่อทำให้แน่ใจว่าผู้ใช้ที่เหมาะสมยังได้รับคำอนุญาตอยู่
สิ่งที่คุณควรรู้
แม้ว่ามันจะมีฟีเจอร์ต่างๆ มากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในขอบเขตอัตโนมัติ CyberArk อาจเป็นผู้จัดการรหัสผ่านที่มือใหม่ต้องเรียนรู้อีกมาก มีตัวเลือกมากมายที่สามารถปรับแต่งได้ แต่วิธีการนี้ถูกนำเสนอออกมาในรูปแบบที่ซับซ้อนพร้อมคำศัพท์การใช้งานระดับสูง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีใครสักคนที่รู้ว่าพวกเขาพูดถึงอะไรหากคุณเลือกซอฟต์แวร์นี้
มันทำงานอย่างไร
เนื่องผู้จัดการรหัสผ่านของ CyberArk ได้รับการออกแบบมาเพื่อองค์กรเท่านั้นจึงไม่มีแผนให้บริการส่วนตัว แต่หลังจากที่คุณจ่ายเงินและดาวน์โหลดซอฟต์แวร์แล้ว คุณสามารถเริ่มต้นที่วีดีโอ CyberArk Guided Tour ที่หน้าโฮมเพจของซอฟต์แวร์ได้อย่างง่ายดาย
อะไรที่ทำให้ผู้จัดการรหัสผ่านดีที่สุดสำหรับองค์กรประจำปี 2024?
ยังมีผู้จัดการรหัสผ่านอีกมากมายที่นอกเหนือจากนี้ คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าซอฟต์แวร์ไหนที่เหมาะกับความต้องการของคุณที่สุด? แม้ว่าผู้จัดการรหัสผ่านบางส่วนอาจบอกว่าพวกเขาใช่ แต่บางซอฟต์แวร์ก็มีข้อจำกัดมากมายเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการรู้พื้นฐานเกี่ยวกับผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีจึงเป็นเรื่องที่สำคัญควบคู่ไปกับฟีเจอร์เสริมที่คุ้มค่ากับการจ่ายเงิน ฟีเจอร์เหล่านี้ ได้แก่ รหัสผ่านมาสเตอร์โดยรวม การยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน ออโต้ฟิลและอื่นๆ ผู้จัดการรหัสผ่านบางส่วนเสนอทางเลือกเหล่านี้และบางส่วนก็ผสมผสานมันเข้าด้วยกันเท่านั้น เนื่องจากเรามองหาผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดสำหรับองค์กร มันยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องพิจารณา
ฟีเจอร์พื้นฐานของผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการรหัสผ่านใดก็ตาม คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันมีฟีเจอร์ดังต่อไปนี้:
- รหัสผ่านมาสเตอร์: พนักงานแต่ละคนควรมีรหัสผ่านมาสเตอร์ของพวกเขาเองในการเข้าสู่ระบบผู้จัดการรหัสผ่านของธุรกิจ นี่ควรเป็นรหัสผ่านที่จำได้และถูกจดเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัย
- ออโต้ฟิล: ครึ่งหนึ่งของการใช้ผู้จัดการรหัสผ่านคือเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องจำและกรอกรหัสผ่าน ซอฟต์แวร์ที่ดีจะกรอกมันให้กับคุณเองด้วยฟีเจอร์ที่เรียกว่าออโต้ฟิล นี่หมายความว่าทุกครั้งที่คุณพบกับแบบฟอร์มออนไลน์ คุณจะมีตัวเลือกในการเลือกบัญชีที่ผู้จัดการรหัสผ่านจะกรอกรหัสผ่านอย่างปลอดภัยโดยอัตโนมัติ
- บันทึกรหัสผ่านอัตโนมัติ: เห็นได้ชัดเลยว่าการมานั่งกรอกรหัสผ่านด้วยตัวเองนั้นใช้เวลาเยอะ มันจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อคุณมีกลุ่มพนักงานของคุณที่ทำเช่นเดียวกันนี้ เพื่อลดเหตุการณ์นี้ผู้จัดการรหัสผ่านจึงควรมีการบันทึกอัตโนมัติ นี่หมายความว่าเมื่อใดก้ตามที่ใครสักคนกรอกชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่าน ซอฟต์แวร์จะบันทึกมันโดยอัตโนมัติ
- เครื่องมือสร้างรหัสผ่าน: อีกหนึ่งโบนัสใหญ่ของการใช้งานผู้จัดการรหัสผ่านคือความสามารถในการมีรหัสผ่านที่ปลอดภัยและซับซ้อนซึ่งไม่มีใครสามารถเจาะมันได้ การที่ซอฟต์แวร์จะมาพร้อมกับฟีเจอร์นี้ถือเป็นเรื่องยาก แต่ผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีสำหรับองค์กรจะมีเครื่องมือสร้างภายในตัวมาให้คุณ ด้วยวิธีนี้คุณจะไม่ต้องคิดรหัสผ่านที่ปลอดภัยและคุณสามารถแน่ใจได้ว่ารหัสผ่านที่เครื่องมือสร้างให้นั้นปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ฟีเจอร์ขั้นสูงของผู้จัดการรหัสผ่าน
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ขั้นสูง ฟีเจอร๋เหล่านี้จะช่วยคุณแบ่งแยกผู้จัดการรหัสผ่านต่างๆ สำหรับองค์กร:
- ตู้นิรภัยส่วนตัวและธุรกิจ: เนื่องจากผู้จัดการรหัสผ่านเหล่านี้ถูกใช้งานโดยพนักงานนับร้อยคน การที่ซอฟต์แวร์ช่วยผู้ใช้แยกแยะระหว่างตู้นิรภัยรหัสผ่านส่วนตัวและบริษัทนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญ
- การแบ่งปันรหัสผ่าน: แม้ว่ามันจะไม่ได้จำเป็น แต่ฟีเจอร์การแบ่งปันรหัสผ่านสำหรับธุรกิจนั้นค่อนข้างสำคัญ วิธีนี้จะทำให้ผู้ดูแลสามารถโอนข้อมูลสำคัญไปให้กับพนักงานคนอื่นได้อย่างง่ายดายและปลอดภัยจากภายในซอฟต์แวร์ นี่จะช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันไม่ให้ข้อมูลรั่วไหล
- โมดูลการทำงาน: หนึ่งในส่วนที่ยากที่สุดเกี่ยวกับการปรับใช้ซอฟต์แวร์บริษัทใหม่คือการแสดงให้พนักงานเห็นว่ามันใช้งานยังไง บริษัทผู้จัดการรหัสผ่านตระหนักในเรื่องนี้และบางซอฟต์แวร์ก็ได้สร้างวีดีโอแนะนำการทำงานมาให้หรือมีสมาชิกช่วยเหลือเฉพาะเพื่อที่พนักงานสามารถปรับตัวใช้งานผู้จัดการรหัสผ่านได้เร็วยิ่งขึ้น