สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้คือซอฟต์แวร์นั้นไม่ได้แตกต่างจากผู้จัดการรหัสผ่านธรรมดาทั่วไป แต่ผู้จัดการรหัสผ่านสำหรับครอบครัวที่ดีคือผู้จัดการรหัสผ่านทั่วไปที่มีฟีเจอร์มุ่งเน้นการใช้งานสำหรับกลุ่ม เช่น การแบ่งปัน การเข้าถึงฉุกเฉินและการซิงค์หลายอุปกรณ์
แทนที่ทุกคนจะต้องสมัครสมาชิกใช้งานผู้จัดการรหัสผ่านของตัวเอง บ่อยครั้งที่ทั้งกลุ่มจะได้รับการจัดการโดยแผนให้บริการแบบชำระเงินเพียงแผนเดียวซึ่งครอบคลุมทุกคน นี่ทำให้จัดการง่ายขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณมีสิ่งอื่นอีกมากมายที่ต้องทำ เช่น ความรับผิดชอบต่อครอบครัว!
เพื่อช่วยคุณค้นหาผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัว เราได้จัดทำรายการที่ได้คะแนนสูงสุด วิธีนี้คุณจะสามารถตรวจสอบผู้จัดการรหัสผ่านสำหรับครอบครัวแต่ละซอฟต์แวร์ได้ว่าพวกเขามีอะไรให้บ้างและทำให้แน่ใจได้ว่ามันเป็นสิ่งที่คุณต้องการก่อนจะตัดสินใจซื้อ
คลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอะไรที่ทำให้ผู้จัดการรหัสผ่านดีที่สุดสำหรับครอบครัว
เราให้คะแนนผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวประจำปี 2024 อย่างไร
หลังจากค้นคว้าผู้จัดการรหัสผ่านสำหรับครอบครัวทั้งหมดเหล่านี้ มันเป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องรู้ว่าเราให้คุณค่าแต่ละซอฟต์แวร์อย่างไร นี่คือวิธีที่ SafetyDetective ให้คะแนนผู้จัดการรหัสผ่านต่างๆ:
- ชุดฟีเจอร์: พวกเขามีฟีเจอร์อะไรให้บ้าง? มีกี่ฟีเจอร์ที่มีให้บริการในแผนฟรีและมีกี่ฟีเจอร์ในแผนที่คุณต้องจ่ายเงินซื้อ?
- ความปลอดภัย: ผู้จัดการรหัสผ่านมีความปลอดภัยที่เหมาะสมหรือไม่? หากเป็นเช่นนั้นแล้วมันทำงานอย่างไร?
- ราคา: มีช่องทางการชำระเงินต่างๆ มากมายสำหรับผู้จัดการรหัสผ่าน บางโปรแกรมอาจให้ฟีเจอร์ที่กว่าคู่แข่ง แต่การรู้ว่าราคาที่จ่ายไปนั้นคุ้มค่ากับสินค้าที่ได้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรู้
ผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวปี 2024 – อัพเดทแล้ว
1. RoboForm – ดีที่สุดสำหรับการซิงค์อุปกรณ์ไม่จำกัด
ทำไมเราถึงชอบ
ใครๆ ที่ชอบฟีเจอร์เสริมภายในผู้จัดการรหัสผ่านจะต้องชื่นชอบ RoboForm ในขณะที่ปกติแล้วซอฟต์แวร์นี้จะได้รับคำชมจากผู้ใช้งานเดี่ยว แต่คุณก็ควรทราบว่าคำชื่นชมนี้ขยายไปจนถึงแผนให้บริการสำหรับครอบครัวด้วยเช่นกัน
ข้อดีสำหรับที่นี่คือ RoboForm มีฟีเจอร์จัดระเบียบมากมายที่นอกเหนือจากพื้นที่จัดเก็บรหัสผ่าน เช่น การจัดการตัวตน โน้ตความจำและอื่นๆ อีกมากมาย มีพื้นที่การจัดการที่ยอดเยี่ยมที่จะเฝ้าระวังทุกคนและสิ่งที่พวกเขากำลังทำ
นอกจากนี้คุณสามารถเพิ่มแผนให้บริการนี้เข้าไปในการไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์ นั่นเป็นจุดสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทุกคนในครอบครัวของคุณมีโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์และแท็บเล็ต คุณยังสามารถแบ่งปันรหัสผ่านกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อทุกอุปกรณ์ได้อย่างปลอดภัย เช่น รหัสผ่าน Netflix หรือ Hulu สำหรับครอบครัว นี่เป็นฟีเจอร์ที่ดีเพราะคุณสามารถใช้รหัสผ่านที่ซับซ้อนที่ผู้จัดการ (ไม่ใช่สมองของคุณ) ในการจดจำได้
สิ่งที่คุณควรรู้
แผนให้บริการสำหรับครอบครัวมีใบอนุญาตหลักห้าใบสำหรับแผนให้บริการทุกที่ของ RoboForm อย่างไรก็ตามคุณไม่สามารถใช้งานมากกว่าห้าคนได้ ดังนั้นหากคุณมีครอบครัวที่ใหญ่กว่านี้ คุณควรมองหาผู้จัดการรหัสผ่านอื่นๆ ในรายการนี้
นอกจากนี้หากใครสักคนในครอบครัวของคุณไม่มีความรู้ทางเทคโนโลยีนัก พวกเขาอาจพบข้อเสนอเสริมมากมายของ RoboForm เช่น ปุ่มลัดและการสำรองข้อมูลซึ่งอาจจะทำให้งงอยู่บ้างเล็กน้อย แน่นอนว่าพวกเขาสามารถใช้งานผู้จัดการรหัสผ่านได้ตามปกติ แต่คุณจ่ายเงินเพื่อฟีเจอร์เสริมซึ่งอาจไม่มีใครใช้งาน อย่างที่กล่าว RoboForm มีราคาถูกมากๆ เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งและการสมัครสมาชิกซื้อแผนให้บริการสำหรับหลายปีนั้นยิ่งมีราคาถูกกว่า
มันทำงานอย่างไร
RoboForm ติดตั้งง่ายด้วยตัวเอง เมื่อติดตั้งแผนให้บริการสำหรับครอบครัวแล้ว ง่ายๆ ให้สมาชิกแต่ละรายดาวน์โหลดแอปบนอุปกรณ์ของพวกเขาและเข้าสู่ระบบโดยใช้ชื่อบัญชีและรหัสผ่านมาสเตอร์ จากที่นี่พวกเขาสามารถนำเข้ารหัสผ่านหรือเริ่มท่องเว็บเพื่อให้ซอฟต์แวร์กรอกข้อมูลอัตโนมัติแทนในทุกที่
2. LastPass – การตั้งค่าที่รวดเร็วที่สุด
ทำไมเราถึงชอบ
สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ LastPass คือแผนให้บริการสำหรับครอบครัวมอบซอฟต์แวร์ผู้จัดการรหัสผ่านเวอร์ชั่น Premium ให้กับทุกคน นอกจากนี้มันยังให้แดชบอร์ดกับเจ้าของเพื่อเชิญชวนสมาชิกผ่านทางอีเมลหรือคอยตรวจสอบว่าทุกคนทำอะไรกันบ้างในผู้จัดการรหัสผ่าน
แถมแผนให้บริการสำหรับครอบครัวนี้ยังรองรับผู้ใช้งานได้สูงสุดถึงหกท่านและเป็นที่ถกเถียงกันในตลาดว่าเป็นซอฟต์แวร์ที่ถูกที่สุด ครอบครัวของคุณไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดซอฟต์แวร์หากพวกเขาไม่ต้องการ ทุกอย่างสามารถเข้าถึงได้ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ซึ่งหมายความว่าข้อมูลทางการเงิน ตัวตนและข้อมูลอื่นๆ ของคุณจะพร้อมใช้งานได้เสมอ
สิ่งที่คุณควรรู้
หากคุณถูกปิดกั้นจากบัญชี LastPass ของคุณ คุณสามารถกู้คืนการเข้าถึงกลับมาได้ ต้องขอบคุณฟีเจอร์การแบ่งปันฉุกเฉิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสามารถเลือกผู้ใช้งานหนึ่งหรือสองคนให้เป็นข้อมูลติดต่อฉุกเฉินที่เชื่อถือได้เพื่อให้สามารถเข้าถึงบัญชีของคุณและเปลี่ยนรหัสผ่านซึ่งจะทำให้คุณกู้สิทธิ์การเข้าถึงกลับมาได้หากจำเป็น
นอกจากนี้อินเตอร์เฟซผู้ใช้งานของ LastPass ก็ได้รับการออกแบบมาอย่างยอดเยี่ยมมากกว่าคู่แข่งมากมายซึ่งทำให้ง่ายแม้แต่สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ทางเทคโนโลยีมากนัก สามารถเข้าถึงโฟลเดอร์ร่วมกัน เช่น สตรีมข้อมูลหรือข้อมูลทางการเงินได้อย่างง่ายดายในขณะที่เก็บข้อมูลส่วนตัวของคุณแยกต่างหากออกจากกลุ่ม
มันทำงานอย่างไร
สิ่งที่คุณต้องทำคือติดตั้งแผนให้บริการสำหรับครอบครัวและเชิญชวนผู้ใช้งานสูงสุดห้าท่านผ่านทางอีเมล จากตรงนี้แต่ละบัญชีจะถูกเชื่อมโยงกับบัญชีหลักซึ่งสามารถเข้าถึงแดชบอร์ด LastPass ได้ คุณไม่สามารถสร้างหน้าที่หรือตำแหน่งได้ แต่ความสามารถในการแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัยกับผู้ใช้งานที่เฉพาะเจาะจงจะลบล้างความต้องการฟีเจอร์ดังกล่าว
3. Sticky Password – จำนวนผู้ใช้ที่สามารถปรับแต่งได้มากที่สุด
ทำไมเราถึงชอบ
แม้ว่ามันจะไม่ได้มีชื่อว่าเป็นแผนให้บริการสำหรับครอบครัว แต่แผนให้บริการสำหรับทีมของ Sticky Password ก็เป็นตัวเลือกที่ดีในเรื่องผู้จัดการรหัสผ่านสำหรับครอบครัวพอๆ กับซอฟต์แวร์อื่นในรายการ
มาเริ่มกันที่ผู้จัดการรหัสผ่านนี้มีราคาต่อผู้ใช้งานต่อปีซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเพิ่มสมาชิกขึ้นอีกสองสามคนหรือจำนวนมากได้ตามที่คุณต้องการ จากที่นี่คุณสามารถจัดการคำอนุญาต การเข้าถึงและอื่นๆ อีกมากมายได้จากหน้าการจัดการที่เข้าถึงง่ายของซอฟต์แวร์
สมาชิกสามารถเข้าถึง Sticky Password ได้จากทุกอุปกรณ์และมันจะจัดเก็บรหัสผ่าน ข้อมูลทางการเงิน โน้ตและอื่นๆ ไว้ในตู้นิรภัย ในการแบ่งปันข้อมูลกับผู้อื่นในแผนให้บริการของคุณ คุณสามารถใช้ฟีเจอร์แบ่งปันข้อมูลที่ปลอดภัยภายในศูนย์แบ่งปันของผู้จัดการรหัสผ่านได้อย่างง่ายดาย มันยังมีอินเตอร์เฟซผู้ใช้งานที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนแม้กระทั่งผู้ที่ไม่มีความรู้ทางเทคโนโลยีก็สามารถใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์นี้ได้
สิ่งที่คุณควรรู้
ผู้จัดการรหัสผ่านมากมายเสนอศูนย์กลางความปลอดภัยซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของคุณและรหัสผ่านที่จัดเก็บของครอบครัว แม้ว่า Sticky Password จะมีสิ่งนี้เช่นกัน แต่มันจะไฮไลท์เฉพาะรหัสผ่านที่อ่อนแอที่สุดเท่านั้นซึ่งอาจเป็นปัญหาเล็กน้อย มันยากที่จะแสดงให้เห็นถึงรหัสผ่านที่แข็งแกร่งมากหรือแม้กระทั่งระดับกลางที่นี่ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่สามารถดูได้ว่าตู้นิรภัยทั้งหมดของคุณปลอดภัยแค่ไหน
ทุกคนที่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงตู้นิรภัย Sticky Password สามารถเข้าสู่ระบบด้วยการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอนและเพลิดเพลินกับการเข้ารหัสมาตรฐานอุตสาหกรรม AES-256 ที่จะป้องกันข้อมูลของพวกเขา
มันทำงานอย่างไร
ผู้ใช้แต่ละรายในทีม Sticky Password จะถูกเรียกว่า “ที่นั่ง (seat)” ในการเพิ่มและจัดการที่นั่ง ต้องไปยังศูนย์กลางแบ่งปันและเชิญชวนผู้ใช้งานผ่านทางที่อยู่อีเมล จากนั้นผู้ใช้จะสามารถใช้งานเพื่อเข้าถึงรหัสผ่านต่างๆ ภายในตู้นิรภัยที่เจ้าของอนุมัติหรือปฏิเสธ แน่นอนว่าพวกเขามีสิทธิ์ในการเข้าถึงตู้นิรภัยส่วนตัวด้วย
4. Keeper – ตู้นิรภัยส่วนตัวดีที่สุด
ทำไมเราถึงชอบ
Keeper เป็นตัวเลือกชั้นนำของผู้จัดการรหัสผ่านทั้งสำหรับรายบุคคลและธุรกิจ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ที่บริการเหล่านั้นจะครอบคลุมถึงครอบครัวด้วย มาเริ่มกันที่ผู้จัดการรหัสผ่านนี้มาพร้อมกับพื้นที่จัดเก็บที่ตอบโจทย์เกือบทุกสิ่งที่คุณต้องการซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงรูปภาพ ข้อมูลทางการเงินและรหัสผ่านโซเชียลมีเดีย ขอบคุณ Keeper ข้อมูลทั้งหมดนี้ได้รับการจัดเก็บอย่างปลอดภัยและแบ่งปันให้กับผู้ใช้งานอื่นได้สูงสุดห้าท่าน
แถมสมาชิกครอบครัวแต่ละคนจะได้รับตู้นิรภัยส่วนตัวที่สามารถปรับแต่งได้ รายการที่ใช้รามกันจะปรากฎในตู้นิรภัยซึ่งผู้ใช้งานสามารถจัดหมวดหมู่ได้ตามที่พวกเขาเลือก คุณสามารถติดตั้ง Keeper ได้ไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์ซึ่งสามารถซิงค์ทั้งหมดได้ต้องขอบคุณการซิงค์หลายอุปกรณ์
นอกจากนี้สิ่งที่คุณควรรู้คือหากคุณถูกปิดกั้นไม่ให้เข้าถึงบัญชีของคุณ คุณสามารถใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์การแบ่งปันฉุกเฉินของ Keeper ซึ่งจะให้สิทธิ์การเข้าถึงบัญชีของคุณได้สูงสุดห้าผู้ใช้งาน จากนั้นพวกเขาจะสามารถช่วยกู้คืนบัญชีกลับมาให้คุณได้อย่างไม่ยากเย็น
สิ่งที่คุณควรรู้
โชคไม่ดีนักที่คุณไม่สามารถเพิ่มผู้ใช้งานมากกว่าห้าคนได้ในแผนให้บริการสำหรับครอบครัว โปรดจำไว้ว่าซอฟต์แวร์นี้มาพร้อมกับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลไฟล์ขนาด 10GB ด้วย แม้ว่านี่จะเป็นปริมาณที่ถือว่ามากและได้รับการเข้ารหัส แต่ผู้ใช้ที่ต้องการพื้นที่มากกว่านี้อาจต้องหาทางเลือกอื่นแทน
ผู้จัดการรหัสผ่านนี้ยังมีฟีเจอร์เสริมที่เรียกว่า KeeperChat ด้วยฟีเจอร์นี้ ทุกคนที่เกี่ยวข้องสามารถสื่อสารซึ่งกันและกันได้ผ่านบริการข้อความเข้ารหัส คล้ายกันกับ Messenger ของ Facebook แต่มีความปลอดภัยมากกว่า คุณสามารถส่งข้อความที่ทำลายตัวเองและเข้าถึงพื้นที่การแบ่งปันข้อมูลส่วนตัวได้เช่นกัน
มันทำงานอย่างไร
แผนให้บริการสำหรับครอบครัวของ Keeper ติดตั้งค่อนข้างง่าย แม้ว่ามันจะมีราคาแพงกว่า RoboForm เล็กน้อย แต่คุณก็จะได้รับฟีเจอร์มากมายในราคารายปี คุณสามารถรวม KeeperChat กับระบบส่งข้อความเดิมได้เพื่อทำให้การจ่ายเงินซื้อง่ายขึ้น นอกจากนี้คุณยังจ่ายเงินในราคาเพียงราคาเดียวแทนที่จะจ่ายเงินต่อผู้ใช้งาน
หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำคือให้ทุกคนดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์ที่พวกเขาต้องการและเข้าสู่ระบบด้วยรหัสผ่านมาสเตอร์
5. 1Password – การตั้งค่าที่ปรับแต่งได้ดีที่สุด
ทำไมเราถึงชอบ
แผนให้บริการสำหรับครอบครัวของ 1Password มีราคาแพงกว่าแผนให้บริการสำหรับรายบุคคลอยู่เพียงเล็กน้อยซึ่งทำให้ซอฟต์แวร์นี้เป็นที่ชื่นชอบในหมู่ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัย นอกจากนี้ยังไม่เหมือนกับคู่แข่งอื่นๆ คุณสามารถเพิ่มผู้ใช้งานได้สูงสุดห้าท่านในแผนให้บริการสูงสุดห้าท่านในแผนให้บริการสำหรับครอบครัวในราคารายเดือนเสริมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ผู้สร้างของบัญชีจะเป็นผู้จัดการหลักซึ่งสามารถให้คำอนุญาตสำหรับตู้นิภัยจัดเก็บข้อมูลอื่นๆ ภายในซอฟต์แวร์ ข้อดีเกี่ยวกับซอฟต์แวร์นี้คือ 1Password ให้ตู้นิรภัยไม่จำกัดที่คุณสามารถจัดระเบียบได้ซึ่งทำให้ง่ายในการแบ่งแยกระหว่างข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลที่ใช้ร่วมกัน เช่น รหัสผ่านเกม vs ประกัน เป็นต้น
นอกจากนี้ในขณะที่นี่ไม่เป็นประโยชน์สำหรับทุกคน แต่ผู้ที่มีความสร้างสรรค์สามารถใช้ประโยชน์จากการตั้งค่าที่ปรับแต่งได้ของ 1Password โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสามารถกรอกข้อมูลทั้งหมดในช่องต่างๆ ได้ตามที่คุณต้องการ เช่น ชื่อผู้ใช้งาน รหัสผ่าน ตำแหน่งและอะไรก็ตามที่คุณนึกออก นี่ยังไม่รวมระบบติดแท็กที่สามารถปรับแต่งได้ทั้งหมดซึ่งให้คุณติดแท็กการเข้าถึงอะไรก็ตามด้วยคีย์ที่คุณนึกออก
สิ่งที่คุณควรรู้
แม้ว่าทุกคนจะสามารถใช้งาน 1Password ได้โดยไม่ต้องปรับตั้งค่าอะไรเลยก็ตาม แต่การตั้งเสริมเหล่านี้จะให้ประสบการณ์ที่ดีกว่าสำหรับผู้ที่รู้วิธีปรับตั้งค่า การติดแท็กอาจเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับแผนให้บริการสำหรับครอบครัว เช่น คุณสามารถแท็กรหัสผ่านโซเชียลมีเดียทั้งหมดด้วย “สังคม” หรือข้อมูลประกันทั้งหมดด้วย “ประกัน” ดังนั้นทุกคนจะสามารถค้นหาได้อย่างง่ายดายหากพวกเขามีสิทธิ์ในการเข้าถึงตู้นิรภัยที่เกี่ยวข้อง
แอปพลิเคชันก็ค่อนข้างราบลื่นดีเช่นกัน แต่สำหรับคนที่ไม่ต้องการขยายอุปกรณ์ก็สามารถเข้าถึงทุกสิ่งผ่าน 1Password ได้ แอปเบราว์เซอร์ของซอฟต์แวร์ที่จะให้ชุดฟีเจอร์อย่างเต็มรูปแบบ
มันทำงานอย่างไร
การลงทะเบียนใช้งานและการแบ่งปันการเข้าถึงนั้นค่อนข้างง่าย เมื่อใช้งานแผนให้บริการสำหรับครอบครัว ผู้สร้างจะได้รับ URL ที่พวกเขาสามารถแบ่งปันทางอีเมล จากที่นี่ผู้ใช้แต่ละคนจะสามารถสร้างรหัสผ่านมาสเตอร์เพื่อเข้าสู่ระบบ เจ้าของสามารถดูแลผู้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงแต่ละตู้นิรภัยและฟีเจอร์ได้
อะไรที่ทำให้ผู้จัดการรหัสผ่านดีที่สุดสำหรับครอบครัวปี 2024?
อย่างที่กล่าวข้างต้น ผู้จัดการรหัสผ่านมากมายสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้รายบุคคล ผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีสำหรับครอบครัวจะขยายบริการของพวกเขาให้ครอบคลุมผู้ใช้จำนวนมากในรูปแบบที่ยอดเยี่ยม
ยกตัวอย่างเช่น ผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีสำหรับครอบครัวจะไม่ให้คุณจ่ายเงินแบบแต่ละผู้ใช้งาน แต่จะให้คุณจ่ายเงินที่ครอบคลุมทั้งกลุ่มแทน จากจุดนนี้คุณสามารถก้าวไปข้างหน้าได้โดยไม่จัดการบัญชีมากมายในแต่ละเดือน
คล้ายกันกับผู้จัดการรหัสผ่านสำหรับธุรกิจ ผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีสำหรับครอบครัวจะมีแผงควบคุมบริหารจัดการเพื่อให้คุณดูแลทุกคนที่เข้าถึงได้ ในพื้นที่นี้คุณสามารถดูสิ่งที่ทุกคนเปลี่ยนแปลงผ่านบันทึกกิจกรรมหรือสร้างตู้นิรภัยต่างๆ เพื่อแยกรายการส่วนตัวออกจากรายการที่ใช้ร่วมกัน เช่น รหัสผ่าน Netflix vs รหัสผ่านอีเมลส่วนตัว
สุดท้ายการซิงค์และการสำรองข้อมูลก็เป็นฟีเจอร์หลักที่สำคัญเช่นกัน วิธีนี้ตู้นิรภัยของทุกคนจะได้รับการอัพเดทเสมอทุกเวลาที่มีข้อมูลใหม่เพิ่มเข้ามา คุณจะสามารถแน่ใจได้ว่าคุณสามารถเข้าถึงข้อมูลรหัสผ่านจากอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้ใดๆ ก็ตามไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือของภรรยาหรือแล็ปท็อปของลูกสาว
ฟีเจอร์พื้นฐานของผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการรหัสผ่านสำหรับครอบครัวใดก็ตาม คุณควรแน่ใจว่ามันมีฟีเจอร์ดังต่อไปนี้:
- แผงควบคุมบริหารจัดการ: คุณต้อวการแน่ใจว่าเจ้าของสามารถกำหนดการเข้าถึงในตู้นิรภัยต่างๆ ได้ในขณะที่จัดการสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ภายในผู้จัดการรหัสผ่าน วิธีนี้คุณสามารถแน่ใจได้ว่าข้อมูลจะถูกมองเห็นโดยคนที่จำเป็นต้องดูเท่านั้น
- การแบ่งปันรหัสผ่าน: การแบ่งปันรหัสผ่านสำหรับบัญชีครอบครัวนั้นค่อนข้างเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เพียงแต่มันให้คุณแบ่งปันข้อมูล เช่น รหัสผ่าน Netflix อย่างปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีที่ดีสำหรับสมาชิกครอบครัวในการเข้าถึงบางสิ่ง เช่น ประกันหรือข้อมูลทางการเงินโดยไม่มีความเสี่ยงการรั่วไหลของข้อมูล
ฟีเจอร์ขั้นสูงของผู้จัดการรหัสผ่าน
แม้ว่าฟีเจอร์ที่กล่าวมาก่อนหน้านี้จะค่อนข้างสำคัญ แต่ฟีเจอร์ขั้นสูงเหล่านี้จะแบ่งแยกความแตกต่างระหว่างผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีและยอดเยี่ยม:
- ตู้นิรภัยส่วนตัวและส่วนรวม: แม้ว่าครอบครัวจะแบ่งปันข้อมูลร่วมกันมากมาย แต่ข้อมูลบางอย่างต้องถูกเก็บเป็นส่วนตัว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงเป็นเรื่องดีที่ผู้ใช้แต่ละคนควรมีตู้นิรภัยส่วนตัวที่นอกเหนือจากส่วนรวมที่ใช้แบ่งปันข้อมูลสำคัญต่างๆ
- การกู้คืนฉุกเฉิน: เนื่องจากครอบครัวมักไว้ใจได้ ตัวเลือกการกู้คืนฉุกเฉินจึงเป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยมสำหรับแผนให้บริการนี้ หากคุณสูญเสียการเข้าถึงรหัสผ่านมาสเตอร์ของคุณ คุณสามารถกู้คืนบัญชีของคุณได้โดยกำหนดบัญชีกู้คืนล่วงหน้าหรือที่รู้จักกันว่าบัญชีของใครสักคนในครอบครัวของคุณ
- การทำงานคุณภาพ: พูดง่ายๆ ก็คือมันสามารถเชิญชวนผู้ใช้มายังแผนให้บริการสำหรับครอบครัวได้ง่ายแค่ไหน? พวกเขาต้องดาวน์โหลดซอฟต์แวร์และใช้งานหรือแค่ได้รับคำเชิญผ่านลิงก์ในอีเมล?